ฝากประชาสัมพันธ์

ฝากประชาสัมพันธ์

ข่าวงานราชการเปิดสอบ 2562-2563

ค้นหา

ติดตามข่าวงานราชการที่นี่งานมากที่สุด

  Youtube: iqepin LINE it! เพิ่มเพื่อน  

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

บทสวด "โพชฌังคปริตร"




"สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มีรับสั่งขอให้สวดทนต์บทโพชฌังคปริตร เพื่อถว่ายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ"
(จากหนังสือ ที่ ฉช 0017.1/11163 ลงวันที่ 14 กันยายน 2558)

"ข้าพเจ้าอยากจะขออะไรจากชาว พอ.สว.สักหน่อย ขออะไรจากข้าราชการพ่อค้าประชาชนเมืองแปดริ้ว ข้าพเจ้าเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เชื่อในพลานุภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพวกเรา แม้แต่ท่านป่วยท่านก็จะให้คนมาสวดบทที่เรียกว่า โพชฌังคปริตร ถวาย และพระโมคคัลลา พระมหากัสสปะป่วย พระพุทธเจ้าก็ทรงกล่าว  โพชฌังคปริตร พระราชทาน

เพราะฉะนั้น  โพชฌังคปริตร จึงถือว่าเป็นบทที่ทำให้คนหายป่วย หายไข้ และก็ไม่ได้ยาวเหยียดจนกระทั่งทุกท่านต้องมานั่งทนสวดหรืออะไร อย่างมากก็ใช้เพียง 5 นาทีก็จบโพชฌังคปริตรแล้ว โดยที่ข้าพเจ้าได้มอบ โพชฌังคปริตร ไว้ที่คุณหมอยุทธ โพธารามิกแล้ว เนื่องจากตัวข้าพเจ้าคิดว่าตัวข้าพเจ้าต่ำต้อยกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การให้พรท่านจึงต้องอ้างอิงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงให้ขึ้นต้นด้วย นะโมตัสสะ 3 เที่ยว และจึงใช้คำว่า พุทธัง อาราธนัง กะโรมิ ธัมมัง อาราธนัง กะโรมิ สังฆัง อาราธนัง กะโรมิ พอแค่นี้แล้วถึงขึ้น โพชฌังคฯต่อไป"

"ข้าพเจ้าอยากจะขอให้ทุกท่านนึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในขณะที่กำลังสวด ว่า สวดถวายเพื่อให้ทรงหายจากโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อทรงอยู่เป็นมิ่งขวัญของพวกเราชาวไทยอีกนานๆ"

พระราชดำรัส สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
-----------------
บทสวด "โพชฌังคปริตร"
ตั้งนะโม 3 จบ
พุทธัง อาราธนัง กะโรมิ ธัมมัง อาราธนัง กะโรมิ สังฆัง อาราธนัง กะโรมิ
โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา    
(โพชฌงค์ 7 ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์)

วิริยัมปีติ ปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร
(วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์)

สะมาธุเปกขะโพชฌังคา สัตเตเต สัพพะทัสสินา
(สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์ 7ประการเหล่านี้)

มุนินา สัมมะทักขาตา ภาวิตา พะหุลีกะตา            
(เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวงตรัสไว้ชอบแล้ว)        

สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา
(อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน)

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
(ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ)

เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง
(ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ และพระมหากัสสปะ)

คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ
(เป็นไข้ ได้รับความลำบาก จึงทรงแสดงโพชฌงค์ 7 ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง)

เต จะ ตัง อะภินันทิตวา โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ
(ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิ่ง ซึ่งโพชฌังคธรรม โรคก็หายได้ในบัดดล)

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
(ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ)

เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต
(ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชาเอง (พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก)

จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตวานะ สาทะรัง
(รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้นนั่นแลถวายโดยเคารพ)

สัมโมทิตวา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส
(ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน)

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
(ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ)

ปะฮีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง
(ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง 3 องค์นั้น หายแล้วไม่กลับเป็นอีก)

มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง
(ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้ว ถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา)

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
(ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้  ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น