ฝากประชาสัมพันธ์

ฝากประชาสัมพันธ์

ข่าวงานราชการเปิดสอบ 2562-2563

ค้นหา

ติดตามข่าวงานราชการที่นี่งานมากที่สุด

  Youtube: iqepin LINE it! เพิ่มเพื่อน  

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สอบ 2557 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สอบ 2557 แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ครม. บัดนี้ - ครม.เห็นชอบขึ้นเงินเดือน ทหาร ตำรวจ ครู และข้าราชการพลเรือน/พนักงานราชการ มีผล 1 ธ.ค. 57

ครม.

"ครม."

ลิงค์: http://iqepi.com/20039/ หรือ
เรื่อง: ครม.เห็นชอบขึ้นเงินเดือน ทหาร ตำรวจ ครู และข้าราชการพลเรือน/พนักงานราชการ มีผล 1 ธ.ค. 57
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---


9 ธ.ค. - ครม.เห็นชอบขึ้นเงินเดือน ทหาร ตำรวจ ครู และข้าราชการพลเรือนทุกกลุ่ม 4% รวมถึงค่าตอบแทนพนักงานราชการ พร้อมขยายเพดานเงินเดือนอีก 10% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.57 เป็นต้นไป

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ สำนักงาน กพ. เสนอ ดังนี้ (1) การปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้พนักงานราชการที่ได้รับการจ้างวุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรี ที่มีค่าตอบแทนไม่ถึง 13,285 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 2,000 บาท แต่เมื่อรวมกับค่าตอบแทนแล้ว ต้องไม่เกินเดือนละ 13,285 บาท และกรณีที่รวมกันแล้วมีค่าตอบแทนไม่ถึง 10,000 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากค่าตอบแทนอีกจนถึงเดือนละ 10,000 บาท โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557

(2) ให้พนักงานราชการกลุ่มงานบริการ กลุ่มงานเทคนิคทั่วไป กลุ่มงานบริหารทั่วไป และกลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มร้อยละ 4 โดยให้มีผลใช้บังคับ 1 ธันวาคม 2557 (3) ปรับเพดานบัญชีค่าตอบแทนขั้นสูง กลุ่มงานบริการ กลุ่มงานเทคนิคทั่วไป กลุ่มงานบริหารทั่วไป และกลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ ร้อยละ 4 และให้มีผลใช้บังคับวันเดียวกับการปรับเพิ่มเพดานเงินเดือนขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ

คณะรัฐมนตรียังมีมติเห็นชอบในหลักการของร่างกฎหมายเพื่อปรับเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการรัฐสภาสามัญ และข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 และเห็นชอบในหลักการการปรับเงินเดือนข้าราชการ หลักการการได้รับเงินเดือนกรณีข้าราชการได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูง รวมถึงอนุมัติให้ใช้งบประมาณเพื่อการปรับเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ

1.การปรับบัญชีเงินเดือนและการแก้ไขกฎหมายขยายเพดานเงินเดือนขั้นสูงของทุกระดับ หรือทุกอันดับ ของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทเพิ่มขึ้น 3 ขั้น สำหรับบัญชีเงินเดือนแบบขั้น หรือประมาณร้อยละ 10 สำหรับบัญชีเงินเดือนแบบช่วง รวมทั้งปรับปรุงบัญชีเงินเดือนข้าราชการให้สอดคล้องกับการดำรงตำแหน่ง โดยในส่วนของข้าราชการพลเรือนสามัญ ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการได้รับเงินเดือน โดยแก้ไขชื่อระดับในบัญชีเงินเดือน เพื่อให้ข้าราชการได้รับเงินเดือนในระดับสูงกว่าหรือต่ำกว่าระดับตำแหน่งที่ดำรงได้ รวมทั้งปรับปรุงบทบัญญัติเพื่อให้ ก.พ.กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเยียวยาให้ข้าราชการได้รับเงินเดือน และหรือเงินประจำตำแหน่งได้ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ปรับปรุงจำนวนขั้นเงินเดือนของบางระดับ (ป.3 และ น.1-น.3) ให้สอดคล้องกับระดับชั้นยศ ข้าราชการตำรวจปรับปรุงจำนวนขั้นเงินเดือนของบางระดับ (ป3. และ ส.1-ส3) ให้สอดคล้องกับระดับชั้นยศ และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ปรับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับครูผู้ช่วยมากกว่าร้อยละ 10 เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของคุณวุฒิปริญญาเอก ทั้งนี้ โดยการแก้ไขบัญชีเงินเดือนแนบท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการประเภทต่างๆ และให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557

2.การปรับเงินเดือนข้าราชการ ให้ข้าราชการได้รับการปรับเงินเดือนเพิ่ม 1 ขั้น สำหรับระบบเงินเดือนแบบขั้น หรือร้อยละ 4 ของอัตราเงินเดือน สำหรับระบบเงินเดือนแบบช่วง ณ วันที่บัญชีเงินเดือนข้าราชการมีผลใช้บังคับ ในกรณีที่การปรับอัตราเงินเดือนดังกล่าวทำให้อัตราใดมีเศษไม่ถึง 10 บาท ให้ปัดเป็น 10 บาท โดยปรับเงินเดือนให้ข้าราชการ ดังนี้ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการซึ่งรับเงินเดือน ระดับปฏิบัติการ และระดับชำนาญการ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป ซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงาน และระดับชำนาญงาน ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่ระดับ น.3 ลงมา ข้าราชการตำรวจ ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่ระดับ ส.3 ลงมา ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่อันดับ คศ.2 ลงมา ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ผู้ดำรงตำแหน่งวิชาการซึ่งรับเงินเดือนตำแหน่งอาจารย์ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะ ซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติการ และระดับชำนาญการ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงาน และระดับชำนาญงาน ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติการ และระดับชำนาญการ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงาน และระดับชำนาญงาน

3.การได้รับเงินเดือนกรณีข้าราชการได้รับเงินเดือนถึงขึ้นสูง ให้ข้าราชการผู้ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูง (เงินเดือนตัน) และได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการและลูกจ้างประจำผู้ได้รับเงินเดือน หรือค่าจ้างถึงขั้นสูง หรือใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นำค่าตอบแทนพิเศษตามผลการประเมินในรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2557 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2557 มารวมเป็นเงินเดือนตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ในกรณีที่อัตราค่าตอบแทนพิเศษดังกล่าวรวมกับเงินเดือนแล้วมีเศษไม่ถึง 10 บาทให้ปัดเป็น 10 บาท

ทั้งนี้ การปรับเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐจะครอบคลุมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทต่างๆ รวมประมาณ 1.98 ล้านคน ประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการรัฐสภาสามัญ พนักงานราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในองค์กรอิสระและองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยสำนักงบประมาณได้จัดเตรียมงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้ว - สำนักข่าวไทย

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บัดนี้ - เขตเศรษฐกิจพิเศษ

""

ลิงค์: http://iqepi.com/19168/ หรือ
เรื่อง: เขตเศรษฐกิจพิเศษ
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---


เกี่ยวกับ การจัดตั้ง เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อรองรับ AEC โดยการนำเสนอของกระทรวงการคลัง มีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) กำกับดูแลการดำเนินการของเขตเศรษฐกิจพิเศษให้เป็นไปตามนโยบาย สำหรับการเตรียมสอบงานราชการจะไม่ทราบเรื่องนี้เลยก็คงจะไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบในหลายๆ ด้าน ก็อ่านไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเครียด เก็บสะสมข้อมูลพอให้ทราบ เพื่อให้เข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จะมีการเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เพราะทราบข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษแล้ว



จาก การที่ประเทศไทยจะ เข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( ASEAN Economic Community: AEC) ในปี 2558 เพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนดังกล่าว รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะจัดตั้ง “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ในจังหวัดต่างๆ ตามแนวชายแดน



เขตเศรษฐกิจพิเศษคืออะไร



เขตเศรษฐกิจพิเศษ  หมายถึง เขตพื้นที่ที่จัดตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมสนับสนุน และอำนวยความสะดวก รวมทั้งให้สิทธิพิเศษบางประการในการดำเนินกิจการต่างๆ เช่น การอุตสาหกรรม การพาณิชยกรรม การบริการ หรือกิจการอื่นใดที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ



สิทธิ ประโยชน์ที่ผู้ ประกอบการอุตสาหกรรม การพาณิชยกรรม หรือกิจการอื่นใดที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศ ได้รับอยู่แล้วตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน  ได้แก่ การส่งเสริมการลงทุน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520  การนิคมอุตสาหกรรม ตามพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522  และเขตปลอดอากร ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พระพุทธศักราช 2496   โดยมีสาระสำคัญการให้สิทธิประโยชน์ ดังนี้



การ จัดตั้งเขต เศรษฐกิจพิเศษ ควรออกเป็นพระราชบัญญัติเช่นเดียวกับพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 และพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 โดยการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติศุลกากร พระพุทธศักราช 2496  เพิ่มบทบัญญัติในหมวด 10 ตรี “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” การจัดตั้งให้ออกเป็นประกาศกระทรวงการคลัง โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี และผู้ที่ประกอบการในเขตดังกล่าวได้รับสิทธิประโยชน์เช่นเดี่ยวกับผู้ได้รับ การส่งเสริมการลงทุน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520  ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม ตามพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522  และผู้ประกอบการในเขตปลอดอากร  ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พระพุทธศักราช 2469  ตามรายละเอียดที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น



ประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ 



การ ที่ประเทศไทยจะ เข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 และประเทศไทยมีสภาพทางภูมิศาสตร์เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ จะมีประโยชน์เป็นอย่างมากต่อประเทศไทย เพราะเป็นการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและส่งเสริมความสามารถในการแข่งขัน ของสินค้าไทยในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีประโยชน์ที่จะได้รับ ดังนี้




  1. เป็นการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ เพราะประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน


  2. เป็นการส่งเสริมการส่งออก เพราะช่วยลดต้นทุนในการประกอบการต่างๆ เช่น ค่าแรงงานราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน


  3. เป็นการส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิตสินค้าจากต่างประเทศเข้าดำเนินการในประเทศไทย


  4. เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าจากประเทศไทย และประเทศต่างๆ ไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอื่นๆ


  5. ก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย ที่มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ





สาระสำคัญร่าง พ.ร.บ. เขตเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ.2548



1.เขต พิเศษ หมายถึง พื้นที่เฉพาะที่กำหนดขึ้นเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมสนับสนุน อำนวยความสะดวก รวมทั้งให้สิทธิพิเศษบางประการในการดำเนินกิจการต่างๆ ภายในเขตพื้นที่ เช่น การอุตสาหกรรม การเกษตรกรรม พาณิชยกรรม การท่องเที่ยว การบริหาร หรือการอื่นใด และยังเป็นการพัฒนาต้นแบบการบริหารจัดการที่ดี



***2.ให้ มีคณะกรรมการนโยบายเขตพิเศษ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่เสนอแนะนโยบายเขตพิเศษและการตั้งเขตพิเศษแต่ละแห่งต่อคณะ รัฐมนตรี รวมทั้งกำกับดูแลการดำเนินการของเขตพิเศษให้เป็นไปตามนโยบาย โดยมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพิเศษ ซึ่งมีสถานะเป็นองค์การมหาชน ทำหน้าที่ศึกษาถึงรายละเอียดที่จะตั้งเขตพิเศษ รวมทั้งเป็นฝ่ายวิชาการและธุรการให้คณะกรรมการนโยบายฯ



3.กำหนดให้มีกระบวนการจัดตั้งเขตพิเศษ การบริหารจัดการเขตพิเศษแต่ละเขตรายได้และอำนาจหน้าที่ของเขตพิเศษ



***4.เขต พิเศษอาจได้มาซึ่งที่ดิน/อสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้ในการดำเนินงาน โดยจัดหาเอง เช่น ซื้อ เช่าซื้อ แลกเปลี่ยน เช่าระยะยาว เวนคืน ให้เอกชนนำที่ดินมาร่วมลงทุน เป็นต้น หรือได้มาโดยผลของกฎหมาย เช่น ให้ พรฏ.จัดตั้งเขตพิเศษมีผลเป็นการถอนสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินในเขตที่กำหนด เป็นเขตพิเศษ และให้ตกเป็นของเขตพิเศษ โดยไม่ต้องดำเนินการตามกฎหมายที่ดิน



***5.กรณี ที่กฎหมายกำหนดให้การดำเนินการในเรื่องใดเป็นอำนาจของหน่วยงาน ของรัฐหรือคณะกรรมการตามกฎหมาย ให้เขตพิเศษมีอำนาจดำเนินการได้เช่นเดียวกับหน่วยงานของรัฐนั้น และให้ถือว่าผู้ว่าการเขตพิเศษเป็นและมีอำนาจเช่นเดียวกับเจ้าพนักงานตาม กฎหมายนั้น



6.การดำเนินการเรื่องใดที่กฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับอนุญาต จากหน่วยงานของ รัฐ เขตพิเศษมีอำนาจดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้สำหรับผู้ขออนุญาตตามกฎหมายนั้น



7.ถ้าเขตพิเศษ เห็นว่าหลักเกณฑ์ วิธีการเงื่อนไขที่กำหนดไว้สำหรับผู้ขออนุญาตตามกฎหมายใดเป็นอุปสรรคแก่ผู้ ประกอบการ/ผู้อยู่อาศัย ให้รายงานคณะกรรมการนโยบายเพื่อนำเสนอ ครม.ปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ ยกเว้นกิจการที่อยู่ในอำนาจของ กทช.และ กสช



8.ถ้าพื้นที่ของเขตพิเศษครอบคลุมป่าสงวนแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรืออุทยานแห่งชาติ และเขตพิเศษนั้นมีวัตถุประสงค์ในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายดังกล่าวต้องสอดคล้องกับแผนและแนวทาง การดำเนินงานของเขตพิเศษ



9.เขตพิเศษมีอำนาจให้บริการแก่ผู้ประกอบ ธุรกิจ/อยู่อาศัย เช่น อนุมัติ ออกใบอนุญาต แทนหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายภายในพื้นที่เขตพิเศษ และเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ซึ่งค่าธรรมเนียมหลังจากหักค่าใช้จ่ายไว้ไม่เกินร้อยละ 10 ให้ส่งเป็นรายได้ของหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายนั้นกำหนด และเมื่อดำเนินการแล้วต้องแจ้งให้หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายทราบ



10.ให้ เขตพิเศษมีอำนาจเช่นเดียวกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในพื้นที่ เขตพิเศษ และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ โดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เมื่อดำเนินการแล้วต้องแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ ค่าธรรมเนียมหลังจากหักค่าใช้จ่ายไว้ไม่เกินร้อยละ 10 ให้ส่งเป็นรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น



11.กรณีหน่วยงานของรัฐหรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเห็นว่าการดำเนินการ ของเขตพิเศษไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม ให้แจ้งเขตพิเศษเพื่อแก้ไข ถ้าเขตพิเศษไม่ดำเนินการให้เสนอคณะกรรมการนโยบายเพื่อวินิจฉัย



12.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นกรรมการ โดยตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารเขตพิเศษ



13.ผู้ประกอบการ/ผู้อยู่อาศัยในเขตพิเศษมีสิทธิ



(1) ได้รับการลดหย่อนหรือยกเว้นอากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิต และค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน



(2) การลดหย่อนอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล



(3) หักค่าใช้จ่ายก่อนการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานอกจากที่กำหนดในประมวลรัษฎากร



(4) นำคนต่างด้าวเข้ามาอยู่และทำงานในราชอาณาจักร



(5) สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินของคนต่างด้าว



(6) สิทธิในการถือครองหรือเปิดบัญชีเงินฝากเป็นเงินตราต่างประเทศ



(7) สิทธิในการนำหรือส่งเงินออกไปนอกราชอาณาจักร



ข้อท้วงติงของแต่ละหน่วยงาน



=กระทรวงการคลัง



การ กำหนดให้เขตเศรษฐกิจพิเศษมีอำนาจดำเนินการได้เช่นเดียวกับหน่วยงานของ รัฐ หรือคณะกรรมการตามกฎหมายใดเป็นการเฉพาะนั้น อาจทำให้การพิจารณาอนุมัติหรืออนุญาตขาดการพิจารณาจากหน่วยงานที่มีความ เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และควรกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมในเขตเศรษฐกิจพิเศษ



=กระทรวงกลาโหม



เห็น ควรตัดร่างมาตรา 62 (1) (2) มาตรา 64, 65 และ 66 ออก เนื่องจากกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และตัดร่างมาตรา 88 และไม่สมควรกำหนดตามร่างมาตรา 99 เพราะอาจจะขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 36 วรรคแรก



=กระทรวงวัฒนธรรม



ควรเพิ่มบทบัญญัติเพื่อปกป้องคุ้มครองโบราณสถาน และควรเพิ่มผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรมในคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจพิเศษด้วย



การ จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษให้มีฐานะเป็น องค์กรมหาชน จะต้องไม่เป็นกิจการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร แต่เขตเศรษฐกิจพิเศษมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมีลักษณะเป็นการแสวงหากำไร



=กระทรวงสาธารณสุข



การกำหนดให้ ผู้ว่าการเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นผู้มีอำนาจอนุมัติ อนุญาต ออกใบอนุญาต หรือให้ความเห็นชอบ หรือเป็นผู้มีอำนาจในการรับจดทะเบียนหรือรับแจ้งตามกฎหมายอื่นด้วยนั้น ควรมีการประเมินความคิดเห็นของทุกฝ่ายให้รอบคอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปกครองส่วนท้องถิ่นตามรัฐธรรมนูญ



=สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี



ร่าง กฎหมายดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 ถ้าหากพื้นที่ของ อปท.ได้มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ



=สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ



กฎหมาย ฉบับนี้ให้อำนาจที่จะให้มีการถมทะเลได้ ซึ่งนอกจากจะศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ควรต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมก่อน



=องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์กรมหาชน)



เห็น ควรให้กำหนดการให้สิทธิพิเศษในการดำเนินกิจการตามร่างมาตรา 4 แต่เฉพาะ "การอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และกิจการที่เกี่ยวเนื่อง" เท่านั้น โดยควรตัดข้อความ "การท่องเที่ยว การบริการ และการอื่นใด" ออก



และใน ส่วนอำนาจหน้าที่ที่ซ้ำซ้อนกับส่วนราชการอื่น ควรมีบทบัญญัติกำหนดให้มีการบูรณาการความร่วมมือและประสานงานเพื่อใช้อำนาจ หน้าที่ร่วมกัน







 6 ใน 12 เขตเศรษฐกิจพิเศษของไทย



  













ความเห็นของภาคเอกชน : การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน




ยุทธศาสตร์ การ พัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการขนส่งของภูมิภาคเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ โดยภาครัฐได้มีการร่างกฎหมายเขตเศรษฐกิจชายแดน โดยวัตถุประสงค์สำคัญจะเป็นการใช้ประโยชน์พื้นที่ตามตะเข็บของชายแดน ซึ่งประเทศไทยมีชายแดนติดต่อกับหลายประเทศ ได้แก่ พม่า , ลาว , กัมพูชา ซึ่งหากรวมภาคใต้ก็จะมีมาเลเซีย โดยเหตุผลสำคัญประเทศไทยต้องการพัฒนาพื้นที่เขตลงทุนอุตสาหกรรมและพาณิชยก รรมให้เป็นประตูรองรับการเชื่อมโยงโครงการ ไม่ว่าจะเป็น GMS : Great Makong Subregion ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ธนาคารแห่งเอเชีย ADB Bank 



โดย เฉพาะต้องการ เชื่อมโยงกับประเทศจีนตอนใต้ โดยการพัฒนาเขตเศรษฐกิจชายแดนที่น่าจะเป็นรูปธรรมน่าจะเป็นโครงการพัฒนา พื้นที่ทางส่วนเหนือของจังหวัดเชียงราย อาจจะเป็นที่แม่สายหรือที่อำเภอเชียงของ ซึ่งจะมีเส้นทางเชื่อมโยงกับเมืองเชียงรุ่งและเมืองคุนหมิง ซึ่งอยู่ในมณฑลยูนานของประเทศจีนตอนใต้  สำหรับโครงการนำร่องเศรษฐกิจชายแดนอีกแห่งหนึ่งน่าจะเป็นบริเวณชายแดน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กับเมืองเมียวดี ของพม่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้โครงการเขตเศรษฐกิจชายแดนกลายเป็นประเด็นในปัจจุบันก็ เนื่องจากรัฐบาลต้องการจะให้มีการส่งเสริมการลงทุนจากประเทศเพื่อนบ้าน หรือจากนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้ง นักลงทุนท้องถิ่นให้มาลงทุนในบริเวณพื้นที่ซึ่งรัฐบาลจะจัดสรร ตามตะเข็บชายแดน โดยการใช้ประโยชน์จากแรงงานต่างด้าวที่จะสามารถเข้ามาทำงานได้แบบเช้าไปเย็น กลับ อีกทั้งจะสามารถนำเข้าวัตถุดิบและส่งออกได้โดยเสรี



นอก จากนี้ จะเป็นแหล่งรองรับการเคลื่อนย้ายฐานการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงาน (Labour Insentive) และอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะวัตถุดิบประเภทไม้ โดยผู้ที่ลงทุนในเขตอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจชายแดนจะได้รับสิทธิประโยชน์จาก การยกเว้นภาษีนำเข้า , การยกเว้นภาษีเงินได้ รวมถึงการตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนและศูนย์กระจายสินค้าด้าน Logistics



โดยผู้ที่ลงทุนในเขตเศรษฐกิจชายแดนจะมีลักษณะแตกต่างไปจากนิคมอุตสาหกรรมโดยทั่วไปก็ตรงที่ ในเขตเศรษฐกิจชายแดน จะถือเป็นดินแดนพิเศษ ดูแลและบริหารโดยคณะกรรมการบริหารจัดการเขตเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วย กรรมการจากคนท้องถิ่น 6 คน และกรรมการจากภาครัฐอีก 4 คน ทำหน้าที่เป็นผู้บริหาร โดยมีอำนาจในการจัดตั้งองค์กรมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการพัฒนาพื้นที่และการใช้ ประโยชน์ของพื้นที่ป่าไม้หรือป่าชุมชน โดยคณะกรรมการมีสิทธิที่จะนำที่ดินเหล่านั้นมาจัดสรรให้กับเอกชนไม่ว่าจะ เป็นสัญชาติไทยหรือต่างชาติ สามารถทำสัญญาเช่าเป็นระยะเวลาได้ถึง 99 ปี



เกี่ยวกับเรื่องเขตเศรษฐกิจชายแดน  มีผู้วิพากษ์ทั้งข้อดีและข้อเสีย หากมองในแง่ประโยชน์แล้วก็จะสามารถทำให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาบริเวณชายแดน ไม่ว่าจะเป็นที่แม่สอด หรือที่เชียงราย หรือจังหวัดหนองคาย หรือในอีกหลายที่ให้สามารถสร้างเป็นเขตอุตสาหกรรม โดยประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากการใช้แรงงานประเทศเพื่อนบ้านเป็นการแก้ปัญหา การขาดแคลนแรงงานไร้ทักษะ และแก้ปัญหาการทะลักเข้ามาในพื้นที่ส่วนกลางของแรงงานต่างด้าว



ส่วนข้อเสียนั้น มีผู้วิจารณ์ที่หลากหลายว่าจะเป็นการเสียอำนาจอธิปไตยหรือการให้อำนาจคณะ กรรมการมากเกินไปในการเวนคืนที่ดิน ถึงแม้ว่า จะมีกรรมการจากท้องถิ่น จะเป็นกรรมการที่จะรักษาความถูกต้อง แต่เรื่องของผลประโยชน์นั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นกรรมการจากคนท้องถิ่นหรือเป็นคนภายนอก หากเป็นผลประโยชน์ซึ่งลงตัวกันแล้ว ก็ฮั้วกันได้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ การให้ระยะเวลาเช่าที่ยาวเกินไป เมื่อเทียบกับประเทศจีนหรือประเทศเวียดนาม ซึ่งมีระยะเวลาให้เช่าที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมไม่เกิน 50 ปี



อย่างไรก็ดี ข้อที่ควรพิจารณา หากเป็นนักลงทุนชาวจีน ซึ่งในประเทศของเขามีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นค่าแรง , ค่าที่ดิน วัตถุดิบ อะไรเป็นเหตุจูงใจให้อยากมาลงทุนในเขตเศรษฐกิจชายแดนที่ตอนเหนือของเชียงราย เป็นไปได้หรือไม่ว่าเป็นเครื่องหมายสำคัญ ก็คือ แหล่งกำเนิดสินค้าในประเทศไทย “Thailand of Origin” เพื่อจะได้นำสินค้าเข้าไปในอาเซียนหรือไปแย่งตลาดของไทยเองในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจีนกำลังมีปัญหาในเรื่องของโควตาสินค้า ซึ่งเกิดจากการถูกกดดันเกี่ยวกับค่าเงินหยวน



ดัง นั้น การพิจารณากฎหมายเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ จึงขอให้มีความรอบคอบ โดยข้อเท็จจริงแล้วประเทศไทยเองก็มีกฎหมายหลายฉบับไม่ว่าจะเป็นร่าง พรบ. เขตปลอดอากร , เขตอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก (EPZ : Export Processing Zone) หรือเขต Free Zone ก็ ล้วนแต่ให้สิทธิใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ไม่ว่าจะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโน ของ สปป.ลาว , เขตเศรษฐกิจพิเศษลาวบาว ของเวียดนาม , หรือที่มณฑลกวางสี, เมืองฉงชิ่ง , เมืองเซินเจิ้น ฯลฯ ในประเทศจีน ซึ่งล้วนเป็นประเทศซึ่งมีระบบปกครองเป็นสังคมนิยม เอกชนไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของที่ดิน รัฐจึงสามารถจัดสรรให้กับต่างชาติเช่าได้



แต่ กรณีของประเทศ ไทย เป็นประเทศประชาธิปไตย ซึ่งมีความแตกต่างกัน ซึ่งเรื่องเศรษฐกิจพิเศษชายแดนนี้คงต้องมีการถกเถียง ทั้งส่วนของผู้ที่เห็นด้วย กับผู้ที่ไม่เห็นด้วยหรือมีความคิดแตกต่างกันไป แต่ทราบว่ารัฐบาลก็มีงบประมาณกว่า 1,300 ล้าน  ในการเตรียมพัฒนาเขตเศรษฐกิจชายแดนที่เชียงราย  หากคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศแล้วก็ทำไป แต่ประเทศไทยไม่ได้เป็นของคนใดคนหนึ่ง เพียงแต่ขอให้คิดให้รอบคอบเพราะมีผลต่อลูกหลาน ทุกคนก็เกิดมาแล้วก็ต้องตายด้วยกันทั้งสิ้น ผลประโยชน์ที่ได้มาก็คงไม่มีใครที่จะแบกไปกับตนได้ เหลือเพียงแต่คุณความดีหรือการสาปแช่งเท่านั้น...



 






นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม



แผนโครงสร้างพื้นฐานเขต ศก.พิเศษของไทย



เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมพร้อมในการประชุมคณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด่าน ศุลกากร ในวันที่ 18 ส.ค.นี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาแผนและลำดับความสำคัญการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แผนปรับปรุงด่านศุลกากร/ด่านชายแดน และแผนพัฒนานิคมอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถรองรับกิจกรรมในพื้นที่พัฒนาและจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ เชื่อมโยงประเทศในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานมอบหมายให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ส.ค.นี้



ทั้งนี้ เป้าหมายในปี 2557-2558 จะมีการจัดตั้งเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษให้สมบูรณ์โดยพัฒนาพื้นที่ชายแดนที่มีศักยภาพ ได้แก่ 1.ด่าน แม่สอด จ.ตาก    2.ด่านอรัญประเทศ จ.สระแก้ว    3.ด่านหาดเล็ก (ท่าเรือคลองใหญ่) จ.ตราด   4.ด่านมุกดาหาร    5.ด่านสะเดา  6.ด่านปาดังเบซาร์ จ.สงขลา   ส่วนที่เหลืออีก 12 ด่านจะทยอยดำเนินการในระยะต่อไป



อย่าง ไรก็ตาม นอกจากคณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด่านศุลกากร จะพัฒนาโครงข่ายพื้นฐานทั้งบก น้ำ อากาศ รางให้เชื่อมโยงกับ 6 ด่านชายแดนอย่างสะดวกแล้ว จะต้องดูเรื่องการปรับปรุงด่านศุลกากร ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ด่านทั้งน้ำประปา ไฟฟ้า ให้ครอบคลุม รวมไปถึงการบริหารจัดการที่ด่าน ซึ่งในภาพรวมหน่วยงานของคมนาคม ได้มีแผนโครงข่ายเชื่อมโยงแต่ละด่านไว้แล้ว และพร้อมดำเนินการทันที




 





             รายงานข่าวว่าเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ได้มีการประชุมครั้งที่ 1/2557 ณ กองบัญชาการกองทัพบก โดยมีหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นประธานการประชุมสรุปสาระสาคัญของผลการประชุมได้ดังนี้



            1. ที่ประชุมคณะกรรมการ กนพ. รับทราบความก้าวหน้าการดาเนินงานของ สศช.ในช่วงปีที่ผ่านมา ได้แก่ (1) ศึกษาเพื่อวางยุทธศาสตร์การพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในระดับประเทศและระดับพื้นที่ (2) หารือร่วมกับหน่วยงานในเรื่องการให้สิทธิประโยชน์ การให้บริการแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ มาตรการสนับสนุนการใช้แรงงานต่างด้าว (3) เตรียมความพร้อม สร้างความเข้าใจและการรับฟังความความคิดเห็นของภาคส่วนการพัฒนาในพื้นที่ชายแดน (4) ศึกษาตัวอย่างรูปแบบการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในต่างประเทศ (5) สำรวจพื้นที่ชายแดนที่มีศักยภาพและโอกาสการเชื่อมโยงไปยังประเทศในภูมิภาคและ (6) ประสานความร่วมมือในระดับทวิภาคีกับประเทศกัมพูชาและประเทศมาเลเซียในการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษร่วมกัน



            2. ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสมในการจัดตั้งเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะแรกของไทยใน 5 พื้นที่ชายแดน เพื่อให้สามารถก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างสมบูรณ์ในปี 2558 ได้แก่ (1) แม่สอด (2) อรัญประเทศ (3) ตราด (4) มุกดาหาร (5) สะเดา (ด่านศุลกากรสะเดาและปาดังเบซาร์) โดย เน้นการตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงของ ประเทศ ในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มการจ้างงานและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ประชาชน แก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามายังพื้นที่ตอนใน ปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน และปัญหาความแออัดบริเวณด่านชายแดน





            3. ที่ประชุมได้เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการสนับสนุนการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 4 เรื่อง ได้แก่ (1) สิทธิประโยชน์สาหรับการลงทุน (2) การให้บริการจุดเดียวแบบเบ็ดเสร็จ (3) มาตรการสนับสนุนการใช้แรงงานต่างด้าว และ (4) การ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและด่านศุลกากรในพื้นที่ เพื่อให้สามารถรองรับกิจกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจและเชื่อมโยงประเทศใน ภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ



            4. ที่ประชุมได้อนุมัติให้ตั้งคณะอนุกรรมการ 3 ชุดเพื่อเสนอแนวทางการดาเนินงานในส่วนที่ได้รับมอบหมายให้ กนพ. พิจารณาภายในเดือนสิงหาคม 2557 ได้แก่



                        (1) คณะอนุกรรมการด้านสิทธิประโยชน์ ขอบเขตพื้นที่ และศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน เสนอขอบเขตและจัดหาพื้นที่ สิทธิประโยชน์ และแผนพัฒนาระบบบริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน ปลัด กค. เป็นประธาน/ ผอ.สศค.เป็นเลขานุการ/สกท.และสศช. เป็นผู้ช่วยเลขานุการ



                        (2) คณะอนุกรรมการศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านแรงงาน สาธารณสุข และความมั่นคงเสนอแนวทางจัดระบบการจ้างแรงงานต่างด้าว การพัฒนาฝีมือแรงงาน และแผนการจัดตั้ง One  Stop Service แรงงานต่างด้าว ปลัดรง.เป็นประธาน/รง.เป็นฝ่ายเลขานุการ/สศช. เป็นผู้ช่วยเลขานุการ



                        (3) คณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด่านศุลกากรเสนอแผนและลาดับความสาคัญการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แผนปรับปรุงด่านศุลกากร/ด่านชายแดน และแผนพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ปลัด คค. เป็นประธาน/ผอ.สนข.เป็นเลขานุการ/กรมศุลกากรและ สศช. เป็นผู้ช่วยเลขานุการ






            5. ให้ สศช. ทาการประเมินผลการดาเนินงานตามนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ 5 พื้นที่ (ตุลาคม 2557-ธันวาคม 2558) ในลักษณะ ก่อน-หลัง ในประเด็นดังนี้ (1) ความก้าวหน้าการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (2) ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ(3) ผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง (4) ความพึงพอใจของภาคส่วนต่างๆ (5) ปัญหา อุปสรรคและแนวทางแก้ไขปรับปรุงเพื่อการปฏิบัติเป็นไปอย่างถูกต้องมี ประสิทธิภาพ และก่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศทั้งนี้เพื่อใช้ประกอบในการพัฒนาและจัดตั้ง เขตเศรษฐกิจพิเศษในระยะต่อไปให้มีประสิทธิภาพ



ระยะที่ 2



จาก การรายงานข่าวว่าทางภาครัฐและเอกชนเชียงรายได้ข่าวดีหลังจากประชุม ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) จ.เชียงราย  มีการแจ้งในที่ประชุมว่าล่าสุด คสช.ได้กำหนดให้ จ.เชียงราย พร้อมด้วย จ.กาญจนบุรี จ.หนองคาย จ.นครพนม และ จ.นราธิวาส เป็นจังหวัดที่จะได้รับการพัฒนาในระยะที่ 2 ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป โดยให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ทำการศึกษาและเก็บข้อมูล ในฐานะเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.)





นาย จักรกฤช ธรรมศิริ รองผู้จัดการโครงการศึกษายุทธศาสตร์การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ กล่าวว่าเชียงรายโชคดีที่เป็นกลุ่มจังหวัดที่จะพัฒนาเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจ พิเศษในเฟส 2 เพราะจะได้รับทราบปัญหาจากกลุ่มจังหวัดแรกๆ และสามารถใช้เป็นข้อศึกษาได้อย่างละเอียดมากขึ้น โดยคณะจะเริ่มลงพื้นที่ จ.เชียงรายตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. 57 เป็นต้นไป เพื่อเก็บข้อมูลอย่างรอบด้านทุกเรื่องตามนโยบายของ คสช.ที่เน้นให้ภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด เริ่มจากการรับฟังความเห็นตั้งแต่กลางดือน ส.ค.-ก.ย. 57 และมีการศึกษาอย่างละเอียดครอบคลุมเรื่องผลกระทบในด้านต่างๆ ด้วย ส่วนเขตพื้นที่ที่จะจัดตั้งก็จะพิจารณาตามเขตการปกครองคือตำบล อำเภอ จังหวัด ซึ่งทำให้ง่ายขึ้นอีก



 





ใน การประชุมได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟเชียง ของ-เด่นชัย ที่มีการผลักดันกันมานานนั้น ล่าสุด คสช.ได้ให้ความเห็นชอบแนวทางการพัฒนาเป็นระบบรถไฟทางคู่ในอนาคต โดยใช้ขนาดทางมาตรฐาน 1.435 เมตร (Standgard Gauge) รถไฟขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ความเร็ว 160 กม./ชม. เป็น 1 ใน 2 โครงการ ในระยะเร่งด่วนแล้ว โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) นำผลศึกษารถไฟความเร็วสูงเดิมมาศึกษาทบทวนเพื่อต่อยอดการออกแบบให้สัมพันธ์ กับแนวทางดังกล่าว ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่เชื่อมโยงจากจีน-ลาว-ไทย-มาเลเซีย





      



ที่ ประชุม กรอ.เชียงรายครั้งนี้ยังมีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งแลนด์มาร์กของ จ.เชียงราย เบื้องต้นกำหนดใช้สถานที่ ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง ก่อนถึงวัดร่องขุ่น เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ และทางนายวิรุณ คำภิโล ที่ปรึกษาหอการค้า จ.เชียงราย แจ้งว่า หอการค้า จ.เชียงรายจะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมหอการค้าทั่วประเทศในวันที่ 21-23 พ.ย.นี้ที่ มฟล. คาดว่าจะมีผู้เข้าไปร่วมงานทุกฝ่ายประมาณ 4,500-5,000 คน



 




ดาวน์โหลดประกาศรับสมัครสอบ คลิกที่นี่

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

เปิดรับสมัครสอบเจ้าหน้าที่ บัดนี้ -28 ก.ย. 2557 ผู้ช่วยวิจัยนโยบาย

" เปิดรับสมัครสอบเจ้าหน้าที่ บัดนี้ -28 ก.ย. 2557  ผู้ช่วยวิจัยนโยบาย"

ลิงค์: http://iqepi.com/?p=15594 หรือ
ตำแหน่ง: ผู้ช่วยวิจัยนโยบาย
ระดับการศึกษา: ปริญญาโท  
อัตราเงินเดือน:
อัตราว่าง: 1
ปฏิบัติงานที่:
เปิดรับสมัครตั้งแต่: บัดนี้ - 28 ก.ย. 2557
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---


ผู้ช่วยวิจัยนโยบาย/ฝ่ายวิจัยนโยบาย
วันที่ประกาศ 18/09/2014

เพศ : ไม่ระบุ
จำนวน: 1 คน
อายุ : ตั้งแต่ 27 ปี ขึ้นไป
ระดับการศึกษา : ปริญญาโท
สาขาวิชา : วิทยาศาสตร์
เกรดเฉลี่ย : 3
สาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง : ปริญญาโท ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ บริหารธุรกิจ หรือสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือปริญญาตรีในสาขาดังกล่าว ที่มีประสบการณ์ตามลักษณะงานมาแล้ว 3 ปี ปริญญาเอกในสาขา Policy Research
ประสบการณ์ : ตั้งแต่ 3 ถึง 5 ปี
ด้าน : ด้านการศึกษาวิจัยเชิงสังคมศาสตร์ / การวิจัยเชิงนโยบาย

ทักษะความสามารถพิเศษ :
1 ปริญญาโท - มีทักษะในการใช้ภาษาไทยเพื่อเสนอรายงานได้สละสลวยและตรงประเด็น
2 ปริญญาโท - มีทักษะในการอ่านบทความเชิง วิชาการด้านวิจัยนโยบายภาษาอังกฤษได้
3 ปริญญาโท - มีทักษะในการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลทั้งปฐมภูมิและทุติยภูมิมาเขียนรายงานเสนอได้
4 ปริญญาโท - มีความรู้ด้านระบบ IT ในงานที่เกี่ยวข้อง / มีทักษะด้านโปรแกรมทางสถิติที่เกี่ยวกับการประมวลผลระดับพื้นฐาน / มีทักษะในการเขียนรายงานการวิจัย / มีทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษระดับปานกลาง
5 ปริญญาโท - มีความรู้เบื้องต้นด้านกระบวนการวิจัย
6 ปริญญาเอก - มีความรู้ด้านกระบวนการวิจัย
7 ปริญญาเอก - มีความรู้เกี่ยวกับทิศทางของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
8 ปริญญาเอก - มีทักษะในการสืบค้นและเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
9 ปริญญาเอก - มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองของประเทศ
10 ปริญญาเอก - มีความรู้ด้านระบบ IT ในงานที่เกี่ยวข้อง / มีทักษะด้านโปรแกรมทางสถิติที่เกี่ยวกับการประมวลผลระดับพื้นฐาน / มีทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษในระดับดี
11 ปริญญาเอก - มีทักษะในการเขียนรายงานการวิจัย / มีทักษะในการนำเสนอข้อมูล/ผลงาน

หน้าที่ความรับผิดชอบ :
1 ปริญญาโท - เสนอความคิด และแก้ปัญหางานวิจัยนโยบาย ตามที่ได้รับมอบหมายภายใต้การกำกับดูแลของผู้บังคับบัญชาเพื่อให้งานเสร็จตามกำหนดเวลา / ประสานงานและติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก สวทช. ได้ด้วยตนเองเพื่อที่จะให้การดำเนินงานวิจัยเป็นไปตามเป้าหมายและมีประสิทธิภาพ
2 ปริญญาโท - วางแผนงานของตนให้สอดคล้องกับทีมงานและโครงการวิจัยเพื่อให้บรรจุผลตามเป้าหมายใหญ่ที่กำหนดไว้ รวมทั้งให้คำแนะนำเพื่อนร่วมงานในการจัดทำแผนงาน / รวบรวม สำรวจ ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล และสังเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น เช่น สภาพภาพ / แนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ตลาด เทคโนโลยี กฏหมาย และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อนำมาจัดทำข้อเสนอนโยบาย มาตรการ กลยุทธ์ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีภายในองค์กร
3 ปริญญาโท - จัดการประชุม จัดเตรียมเอกสาร บันทึก สรุปผลการประชุม/เสวนา และประสานงานทั้งภายในและภายนอก / จัดเก็บข้อมูล/เอกสาร บันทึกและรวบรวมองค์ความรู้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานวิจัยนโยบายไว้กับองค์กร ในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งรวบรวม สรุปข้อมูล และรายงานผลการปฏิบัติงานของคนได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงงาน
4 ปริญญาโท - มีส่วนร่วมในการนำองค์ความรู้ไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย หรือเผยแพร่ผลงานของทีมงาน ผ่านสื่อวิชาการต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย เช่น บทความวิชาการ บทความประชาสัมพันธ์ หนังสือ ฯลฯ
5 ปริญญาเอก - ริเริ่ม เสนอแนวความคิด และพัฒนางานวิจัยนโยบายที่รับผิดชอบได้ด้วยตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ / ประสานงานและติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก สวทช. เพื่อที่จะให้การดำเนินงานวิจัยเป็นไปตามเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพ / จัดทำข้อเสนอโครงการวิจัย / บริหาร โครงการ ทบทวน ปรับเปลี่ยนแผนงานโครงการวิจัยภายใต้คำแนะนำของผู้บังคับบัญชาให้สอดคล้องกับทีมงานและเป้าหมายใหญ่ที่กำหนดไว้ รวมทั้งสื่อสารให้ทีมงานมีความเข้าใจตรงกัน
6 ปริญญาเอก - ร่วมบริหารทรัพยากรที่ได้รับของโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Utilize) ตลอดจนเป็นพี่เลี้่ยงและสอนงานแก่ทีมงานในการบริหารโครงการวิจัยและการใช้เทคโนโลยีเพื่อทำการวิจัย / บันทึกและรวบรวมองค์ความรู้ไว้กับองค์กร รวมทั้งรวบรวม สรุปข้อมูล และรายงานผลของโครงการที่รับผิดชอบได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงงาน
7 ปริญญาเอก - รวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ความต้องการของแหล่งทุนและสามารถอธิบายงานให้แหล่งทุนเข้าใจภายใต้กรอบ / ระเบียบที่องค์กรกำหนด รวมทั้งส่งมอบสิ่งที่แหล่งทุนต้องการ / ริเริ่มเสนอแนวความคิด และ/หรือหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม รวมทั้งติดตามผลหลังการให้บริการหรือส่งมอบงานกับแหล่งทุน
8 ปริญญาเอก - ผลิตผลงานทางวิชาการ โดยสามารถจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย มาตรการ กลยุทธ์ที่เกิดจากการศึกษาวิจัยเชิงนโยบาย จัดทำรายงานเชิงวิจัยนโยบาย หรือรายงานการศึกษาเพื่อเผยแพร่ หรือเขียน (ร่าง) เอกสารวิชาการ โดยเป็นผู้เขียนหลัก (Main Writer) และ/หรือเป็นผู้ร่วมผลงานชื่อแรก (First Author) ในการเขียนผลงานทางวิชาการ / มีส่วนร่วมในการนำองค์ความรู้ไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย หรือเผยแพร่ผลงานทั้งในและต่างประเทศ ตามที่ได้รับมอบหมาย เช่น ให้คำปรึกษา และเขียนบทความ หนังสือ เป็นต้น


สมัครงาน งานราชการ รับสมัคร สอบ 2557 สอบ 57 เปิดสอบ
วิธีการสมัครงานเจ้าหน้าที่  :online  
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ:
สอบวันที่:
ประกาศผลสอบ:
เว็บไซต์สมัครสอบงานราชการ คลิกที่นี่

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เปิดรับสมัครสอบพนักงานราชการ 1 -7 ก.ค. 2557 เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี

" เปิดรับสมัครสอบพนักงานราชการ 1 -7 ก.ค. 2557  เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี"

ลิงค์: http://iqepi.com/?p=14030 หรือ
ตำแหน่ง: เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี
ระดับการศึกษา: ปวส.  
อัตราเงินเดือน: 13,010
อัตราว่าง: 1
ปฏิบัติงานที่:
เปิดรับสมัครตั้งแต่: 1 - 7 ก.ค. 2557
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
สมัครงาน งานราชการ รับสมัคร สอบ 2557 สอบ 57 เปิดสอบ
วิธีการสมัครงานพนักงานราชการ  :สมัครด้วยตนเอง  
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ:
สอบวันที่:
ประกาศผลสอบ:
ดาวน์โหลดรายละเอียด/ประกาศรับสมัครสอบ คลิกที่นี่!!

วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

05 พ.ค.2557 - แผ่นดินไหว ภาคเหนือ

" 05 พ.ค.2557 -  แผ่นดินไหว ภาคเหนือ"


ลิงค์: http://iqepi.com/?p=13660 หรือ




 






























แผ่นดินไหวที่ THAILAND
จุดศูนย์กลางที่ ต.ทรายขาว อ.พา่น จ.เชียงราย
ขนาด: 6.3 ริกเตอร์
จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว: THAILAND
วันที่: 05 พฤษภาคม 2557 18:08 น.
ละติจูด: 19° 40' 48'' เหนือ
ลองจิจูด: 99° 41' 24'' ตะวันออก
ความลึกจากระดับผิวดิน: 10 กิโลเมตร

5 พ.ค.2557 ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติแจ้ง เมื่อเวลา 18.08 น. เกิดแผ่นดินไหวบนบกขนาด 6.3 ริกเตอร์ ความลึก 10 กม. บริเวณ อ.พาน จ.เชียงราย ได้รับแรงสั่นไหวถึง จ.ลำปาง และจนถึงกรุงเทพฯ  ขอให้ประชาชนในพื้นที่แผ่นดินไหวโปรดอยู่ในที่ปลอดภัย เพราะอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมา ศภช. จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป

 

จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดความเสียหายหลายพื้นที่รวมถึงยอด เจดีย์วัดวัดร่องขุ่นหักด้วย ทั้งนี้อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ สัมภาษณ์เนชั่นทีวีบอกพรุ่งนี้ปิดวัดร่องขุ่น เพื่อตรวจสอบความเสียหาย

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติรายงานแผ่นดินไหว
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แจ้ง เมื่อเวลา 18.39น. วันที่ 5 พฤษภาคม ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว ในประเทศไทย วัดความรุนแรงได้ 5.8 แมกนิจูด ศูนย์กลางอยู่บริเวณ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เป็นแผ่นดินไหวขนาดกลาง ความเสียหายในพื้นที่รัศมี 0 - 24 กิโลเมตร สิ่งปลูกสร้าง เส้นทางคมนาคม แหล่งพลังงาน และระบบการสื่อสารขัดข้อง แผ่นดินยุบ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ อำเภอพาน , เมือง , แม่ลาว , แม่สรวย , เวียงเป้า จังหวัดเชียงราย  และพื้นที่ในรัศมี 25-112 กิโลเมตร

อาคารและสิ่งปลูกสร้างอาจจะแตกร้าว พื้นที่นี้ได้แก่ อำเภอขุนตาล , เชียงของ , เชียงแสน , ดอยหลวง , เทิง , ป่าแดด , พญาเม็งราย , พาน , เมืองเชียงราย , แม่จัน , แม่ฟ้าหลวง , และแม่สรวย , แม่สาย , เวียงแก่น , เวียงชัย ,เวียงเชียงรุ้ง , และอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อำเภอเชียงดาว , ไชยปราการ , ดอยสะเก็ด , ฝาง , พร้าว ,แม่แตง ,แม่ริม ,แม่ออน , แม่อาย ,เวียงแหง , สันกำแพง ,สันทราย และอำเภอสองแคว จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอจุน , เชียงคำ , , เชียงม่วง , ดอกคำใต้ , ปง , ภูกามยาว , ภูซาง , เมืองพะเยา , และอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา อำเภอสอง จังหวัดแพร่ อำเภองาว , แจ้ห่ม , เมืองปาน , แม่เมาะ และ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

สำหรับคำแนะนำ เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งนี้พื้นที่ในรัศมี 0-24 กิโลเมตร ใน อาคารและสิ่งปลูกสร้างเกิดความเสียหาย และในพื้นที่ 25-112 กิโลเมตรเกิดความเสียหายเล็กน้อย คำแนะนำอื่นๆ

-หน่วยงานอื่นนอกเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วน
- ระวังอันตรายจากแผ่นดินไหวระลอกหลัง และแผ่นดินถล่มบริเวณพื้นที่ลาดชัน
- ห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ประสบภัย ไม่ควรใช้อาคารที่เสียหายจากแผ่นดินไหวจนกว่า จะมีการตรวจสอบและอนุญาตแล้ว
- หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ศภช. จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป (www.ndwc.go.th) หรือ โทรศัพท์ 192





















ภาพจากเว็บไซต์ข่าว โอเคเนชั่น, ผู้จัดการออนไลน์

 

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เปิดรับสมัครสอบ [พนักงานราชการ] 3 -07 มี.ค. 2557 ,นักวิชาการเงินและบัญชี,นักจัดการงานทั่วไป,เจ้าหน้าที่ธุรการ,เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี,พนักงานเดินหมาย,ช่างไฟฟ้า

" เปิดรับสมัครสอบ [พนักงานราชการ] 3 -07 มี.ค. 2557  ,นักวิชาการเงินและบัญชี,นักจัดการงานทั่วไป,เจ้าหน้าที่ธุรการ,เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี,พนักงานเดินหมาย,ช่างไฟฟ้า"

ลิงค์: http://iqepi.com/?p=12746 หรือ
ตำแหน่ง: ,นักวิชาการเงินและบัญชี,นักจัดการงานทั่วไป,เจ้าหน้าที่ธุรการ,เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี,พนักงานเดินหมาย,ช่างไฟฟ้า
ระดับการศึกษา: ปวช.  ปริญญาตรี  
อัตราเงินเดือน: 11,280-18,000
อัตราว่าง: 48
ปฏิบัติงานที่: กรุงเทพ
เปิดรับสมัครตั้งแต่: 3 - 07 มี.ค. 2557
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**


ประกาศกรมบังคับคดี เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป



ด้วยกรมบังคับคดีประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อจัดจ้างเป็นพนักงานราชการปะเภทพนักงานราชการทั่วไป เพื่อปฏิบัติงานทั้งในส่วนกลางและในส่วนภูมิภาค จึงประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรร รายละเอียดดังนี้



นักวิชาการเงินและบัญชี
อัตราว่าง 10 อัตรา 
คุณวุฒิ ปริญญาตรี
อัตราค่าตอบแทน 18,000 บาท





นักจัดการงานทั่วไป
อัตราว่าง 7 อัตรา
คุณวุฒิ ปริญญาตรี
อัตราค่าตอบแทน 18,000 บาท





เจ้าหน้าที่ธุรการ
อัตราว่าง 15 อัตรา 
คุณวุฒิ ปวช.-ปวส.
อัตราค่าตอบแทน 11,280 บาท





เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี
อัตราว่าง 10 อัตรา 
คุณวุฒิ ปวช.-ปวส.
อัตราค่าตอบแทน 11,280 บาท





พนักงานเดินหมาย
อัตราว่าง 3 อัตรา 
คุณวุฒิ ปวช.-ปวส.
อัตราค่าตอบแทน 11,280 บาท





ช่างไฟฟ้า
อัตรว่าง 3 อัตรา
คุณวุฒิ ปวช.-ปวส.
อัตราค่าตอบแทน 11,280 บาท


สมัครงาน งานราชการ กรุงเทพ รับสมัคร สอบ 2557 สอบ 57 เปิดสอบ
วิธีการสมัครงานพนักงานราชการ  :รับสมัครทางอินเตอร์เน็ต  
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ: 19 มี.ค. 2557
สอบวันที่:
ประกาศผลสอบ:
ดาวน์โหลดรายละเอียด/ประกาศรับสมัครสอบ คลิกที่นี่!!
เว็บไซต์ คลิกที่นี่

วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เปิดรับสมัครสอบ [ข้าราชการ] 10 -17 ก.พ. 2557 ,พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ,นักเทคนิคการแพทย์ปฏิบัติการ,เภสัชกรปฏิบัติการ,เจ้าพนักงานเภสัชกรรมปฏิบัติงาน

" เปิดรับสมัครสอบ [ข้าราชการ] 10 -17 ก.พ. 2557  ,พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ,นักเทคนิคการแพทย์ปฏิบัติการ,เภสัชกรปฏิบัติการ,เจ้าพนักงานเภสัชกรรมปฏิบัติงาน"

ลิงค์: http://iqepi.com/?p=12690 หรือ
ตำแหน่ง: ,พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ,นักเทคนิคการแพทย์ปฏิบัติการ,เภสัชกรปฏิบัติการ,เจ้าพนักงานเภสัชกรรมปฏิบัติงาน
ระดับการศึกษา: ปวส.  ปริญญาตรี  
อัตราเงินเดือน: 11,500-19,250
อัตราว่าง: 14
ปฏิบัติงานที่: ประจวบฯ
เปิดรับสมัครตั้งแต่: 10 - 17 ก.พ. 2557
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
สมัครงาน งานราชการ ประจวบฯ รับสมัคร สอบ 2557 สอบ 57 เปิดสอบ
วิธีการสมัครงานข้าราชการ  :ขอและยื่นใบสมัครด้วยตนเอง  
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ: 19 ก.พ. 2557
สอบวันที่:
ประกาศผลสอบ:
ดาวน์โหลดรายละเอียด/ประกาศรับสมัครสอบ คลิกที่นี่!!