ฝากประชาสัมพันธ์

ฝากประชาสัมพันธ์

ข่าวงานราชการเปิดสอบ 2562-2563

ค้นหา

ติดตามข่าวงานราชการที่นี่งานมากที่สุด

  Youtube: iqepin LINE it! เพิ่มเพื่อน  

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รายงานพิเศษ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รายงานพิเศษ แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

กรมการปกครอง บัดนี้ - อนุมัติอัตรากำลังเพิ่มให้กรมการปกครอง

กรมการปกครอง

"กรมการปกครอง"

ลิงค์: http://iqepi.com/31451/ หรือ
เรื่อง: อนุมัติอัตรากำลังเพิ่มให้กรมการปกครอง
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---


ความเดิม คลิกที่นี่



ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อ 18 พ.ค. 58



กรณีที่กระทรวงมหาดไทย ขออนุมัติอัตรากำลังเพิ่มให้กรมการปกครอง เพื่อรองรับภารกิจของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง และส่วนราชการอื่นที่ไม่มีหน่วยงานในระดับอำเภอนั้น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเห็นว่าเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครองปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นผู้แทนรัฐบาลที่มีภาระงานหลากหลายจำนวนมากและมีบทบาทอย่างสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติตามนโยบายที่สำคัญๆ ของรัฐบาลและขององค์กรอิสระต่างๆ ที่เข้าไปดำเนินงานในพื้นที่ นายอำเภอและข้าราชการสังกัดกรมการปกครอง จะต้องรับไปดำเนินงานและให้เกิดผลสำเร็จตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ด้วยการประสานการปฏิบัติงานกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน นายอำเภอและข้าราชการในสังกัดกรมการปกครองต้องเข้าดำเนินการเป็นหน่วยงานแรกด้วยการประสานงานกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาได้อย่างครบวงจรและยั่งยืน ดังนั้นผลการดำเนินการของข้าราชการกรรมการปกครองในแต่ละอำเภอจึงส่งผลต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของส่วนราชการและรัฐบาลโดยรวมด้วยในการนี้ จึงเห็นสมควรพิจารณาอนุมัติอัตรากำลังเพิ่มให้กรมการปกครองตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ



ดาวน์โหลดประกาศรับสมัครสอบ คลิกที่นี่

วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2558

ครม. บัดนี้ - ไฟเขียวขายล็อตเตอรี่ในร้านสะดวกซื้อ

ครม.

"ครม."

ลิงค์: http://iqepi.com/30696/ หรือ
เรื่อง: ไฟเขียวขายล็อตเตอรี่ในร้านสะดวกซื้อ
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---




ครม.ไฟเขียวแก้ก.ม.สลากฯ เพิ่มช่องทางขายลอตเตอรี่ด้วยเครื่อง-ร้านสะดวกซื้อ-เคาน์เตอร์เซอร์วิสหวัง คุมราคาลอตเตอรี่ไม่เกินคู่ละ 80 บาท “บิ๊กตู่” ลั่น 6 เดือนเห็นผล



พล.อ.ประยุทธ์ ​จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติหรือพ.ร.บ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือลอตเตอรี่เกินราคา รวมทั้งให้กฎหมายทันสมัยและรัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาข้อกฎหมายภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ ครม.ได้หารือกันหลายเรื่องโดยเฉพาะจะทำอย่างไรจะให้ราคาลอตเตอรี่อยู่ในราคา คู่ละ 80 บาท



ทั้ง นี้รัฐบาลกำลังจะปรับระบบทั้งหมดในเรื่องของลอตเตอรี่ คิดว่าภายใน 3 เดือน คงรู้เรื่องในส่วนของกฎหมาย และต้องแก้ให้แล้วเสร็จทั้งหมดใน 6 เดือน โดยจะพยายามทำให้ได้ในทุกวิถีทาง อาจขายทางตู้หรือผ่านเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติก็ได้ ส่งโควต้าไปที่จังหวัด เพื่อให้ทางจังหวัดเป็นผู้รวบรวมตัวแทนขายจะได้ไม่เดือดร้อน หรือจะขายในร้านสะดวกซื้อจะได้หรือไม่ แต่ไม่ใช่เป็นการส่งเสริมการพนัน เดี๋ยวจะหาว่ารัฐบาลส่งเสริมการพนันอีก



“เรา ต้องการลดราคาขายลอตเตอรี่ลงให้ได้เหลือคู่ละ 80 บาท ซึ่งช่วงแรกจะต้องเลือกวิธีกันหน่อย ถ้าการขายผ่านตู้ออนไลน์ไม่ผิดกฎหมาย ก็ว่ากันไป หรือต้องจัดหาซื้อใหม่ เพราะของเก่ายังมีปัญหา และทางจังหวัดต้องขึ้นทะเบียนคนขาย เวลาคิดต้องคิดใหญ่ขนาดนั้น ถ้าคิดแล้วสั่งปุ๊บ มันไม่ได้ และไม่ได้ไปเกรงใจใครทั้งสิ้น จะมีกี่เสือไม่รู้ ไม่มีเสือทั้งนั้น เวลานี้มีเสือตัวเดียวคือรัฐบาลที่ต้องแก้ปัญหาให้ได้ แต่ต้องแก้ด้วยกฎหมาย เพราะผูกพันด้วยคนส่วนใหญ่ ถ้าใช้อำนาจพิเศษมันเดือดร้อนจะใช้เท่าที่จำเป็น สลากฯเป็นความหวังคนจน แต่ซื้อทุกงวดไม่ไหว วันหลังจะลองเปลี่ยนรถนั่งทุกวัน และตั้งแต่ผมเปลี่ยนรถมา ยังไม่เห็นใครถูกหวยเลย แสดงว่าหวยไม่ได้ล็อค"



ด้าน นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวว่า การแก้กฎหมายครั้งนี้รัฐบาลได้เน้นหนักไปที่การทำให้ราคาลอตเตอรี่มีราคาขาย ที่คู่ละ 80 บาท โดยเปิดทางให้สำนักงานสลากฯ นำลอตเตอรี่มาขายผ่านเครื่องจำหน่าย และขายผ่านเคาเตอร์เซอร์วิส หรือร้านสะดวกซื้อได้ เพื่อถ่วงดุลให้ราคาลอตเตอรี่อยู่ที่คู่ละ 80 บาท ซึ่งจะเริ่มจากการนำโควต้าลอตเตอรี่ที่จะหมดอายุในเดือน มิ.ย. และ ส.ค. นี้ มาจำหน่ายก่อน โดยเชื่อว่าการกระจายการจำหน่ายลอตเตอรี่ให้ถึงมือผู้บริโภคมากขึ้น จะเป็นการช่วยลดปัญหาเรื่องราคาแพง และลดการนำลอตเตอรี่มารวมชุด เพื่อโก่งราคาขายได้ โดยผู้ซื้อไม่สามารถเลือกซื้อเลขใดเลขหนึ่งในลักษณะหวย 2 - 3 ตัวหรือรูปแบบลอตโต้ในต่างประเทศได้ แต่เป็นการเพิ่มช่องทางให้ซื้อลอตเตอรี่แบบปกติ ที่มีการจำหน่ายอยู่เท่านั้น และยืนยันว่าสำนักงานสลากฯ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโควต้าขององค์กร สถาบัน หรือผู้ที่มีโควต้าอยู่แล้วแต่อย่างใด ส่วนการจะขายสลากฯ 2 ตัว 3 ตัวด้วยหรือไม่นั้น คงไม่ได้เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้แน่นอน ขณะเดียวกันนายกฯ ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเจรจากับผู้ประกอบการที่เคยมีธุรก รรมกับรัฐในการขายสลากฯ ผ่านเครื่องอัตโนมัติ คือบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด ว่าจะสามารถทำได้ หรือติดข้อกฎหมายหรือไม่



พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาระสำคัญของการแก้ไขร่างพ.ร.บ.สลากฯ เพื่อรองรับให้สำนักงานสลากฯมีอำนาจในการออกสลากรูปแบบวิธีการต่าง ๆ ตามแบบสากลและเปลี่ยนสัดส่วนการจัดสรรรายได้จากการจำหน่ายให้เหมาะสม โดยกำหนดให้คงการจัดสรรเงิน 60% จากยอดขายลอตเตอรี่ทั้งหมดกันไว้เป็นเงินรางวัล และปรับลดเงินนำส่งเข้ารัฐ จากไม่น้อยกว่า 28% เป็นไม่น้อยกว่า 20% และนำส่วนต่างที่เหลือ 5% มาจัดสรรเงินเป็นเงินกองทุนรับซื้อลอตเตอรี่ที่ขายไม่หมด ส่วนอีก 3% ให้นำไปเพิ่มในส่วนของการบริหารงานเป็น 15% จากเดิมที่กำหนดไว้ 12% โดยที่ประชุมได้กำหนดโร้ดแม็พการทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เพื่อเสนอให้สนช.พิจารณาต่อไป



นอก จากนี้ยังได้แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “สลากกินแบ่งรัฐบาล” และ “กองทุนบริหารจัดการสลาก”, แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของสำนักงานสลากฯเพื่อให้ครอบคลุมถึงการออกสลาก กินแบ่งเพื่อสาธารณะประโยชน์และให้มีการจัดการระบบบริหารจัดการสลากฯ และช่องทางจำหน่าย, แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลและระยะเวลาในการดำรง ตำแหน่ง, แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เพิ่มเติมการออกระเบียบหรือข้อบังคับว่าด้วยกองทุนบริหารจัดการสลาก, แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจของผู้อำนวยการให้สอดคล้องโครงสร้างสำนักงานสลากกินแบ่ง รัฐบาล, แก้ไขเพิ่มเติมสัดส่วนการจัดสรรเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายสลากกินแบ่ง, กำหนดวิธีการจัดสรรเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งเพื่อสาธารณ ประโยชน์, แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินที่ได้รับไว้นอกเหนือจากการำหน่ายสลากฯ ดอกผล ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานอายุความสิทธิเรียกร้องเงินรางวัล การวางระบบบัญชี ผู้ตรวจสอบบัญชี และกำหนดมาตรการคุ้มครองแก่เด็กและเยาวชน ไม่ให้เกี่ยวข้องกับสลากฯ



ที่ มา  http://www.dailynews.co.th/Content/economic/306580/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AE!%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B8%B080%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97

ครม. บัดนี้ - ไฟเขียวขายล็อตเตอรี่ในร้านสะดวกซื้อ

"ครม."

ลิงค์: http://iqepi.com/30694/ หรือ
เรื่อง: ไฟเขียวขายล็อตเตอรี่ในร้านสะดวกซื้อ
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---




ครม.ไฟเขียวแก้ก.ม.สลากฯ เพิ่มช่องทางขายลอตเตอรี่ด้วยเครื่อง-ร้านสะดวกซื้อ-เคาน์เตอร์เซอร์วิสหวัง คุมราคาลอตเตอรี่ไม่เกินคู่ละ 80 บาท “บิ๊กตู่” ลั่น 6 เดือนเห็นผล



พล.อ.ประยุทธ์ ​จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติหรือพ.ร.บ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือลอตเตอรี่เกินราคา รวมทั้งให้กฎหมายทันสมัยและรัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาข้อกฎหมายภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ ครม.ได้หารือกันหลายเรื่องโดยเฉพาะจะทำอย่างไรจะให้ราคาลอตเตอรี่อยู่ในราคา คู่ละ 80 บาท



ทั้ง นี้รัฐบาลกำลังจะปรับระบบทั้งหมดในเรื่องของลอตเตอรี่ คิดว่าภายใน 3 เดือน คงรู้เรื่องในส่วนของกฎหมาย และต้องแก้ให้แล้วเสร็จทั้งหมดใน 6 เดือน โดยจะพยายามทำให้ได้ในทุกวิถีทาง อาจขายทางตู้หรือผ่านเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติก็ได้ ส่งโควต้าไปที่จังหวัด เพื่อให้ทางจังหวัดเป็นผู้รวบรวมตัวแทนขายจะได้ไม่เดือดร้อน หรือจะขายในร้านสะดวกซื้อจะได้หรือไม่ แต่ไม่ใช่เป็นการส่งเสริมการพนัน เดี๋ยวจะหาว่ารัฐบาลส่งเสริมการพนันอีก



“เรา ต้องการลดราคาขายลอตเตอรี่ลงให้ได้เหลือคู่ละ 80 บาท ซึ่งช่วงแรกจะต้องเลือกวิธีกันหน่อย ถ้าการขายผ่านตู้ออนไลน์ไม่ผิดกฎหมาย ก็ว่ากันไป หรือต้องจัดหาซื้อใหม่ เพราะของเก่ายังมีปัญหา และทางจังหวัดต้องขึ้นทะเบียนคนขาย เวลาคิดต้องคิดใหญ่ขนาดนั้น ถ้าคิดแล้วสั่งปุ๊บ มันไม่ได้ และไม่ได้ไปเกรงใจใครทั้งสิ้น จะมีกี่เสือไม่รู้ ไม่มีเสือทั้งนั้น เวลานี้มีเสือตัวเดียวคือรัฐบาลที่ต้องแก้ปัญหาให้ได้ แต่ต้องแก้ด้วยกฎหมาย เพราะผูกพันด้วยคนส่วนใหญ่ ถ้าใช้อำนาจพิเศษมันเดือดร้อนจะใช้เท่าที่จำเป็น สลากฯเป็นความหวังคนจน แต่ซื้อทุกงวดไม่ไหว วันหลังจะลองเปลี่ยนรถนั่งทุกวัน และตั้งแต่ผมเปลี่ยนรถมา ยังไม่เห็นใครถูกหวยเลย แสดงว่าหวยไม่ได้ล็อค"



ด้าน นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวว่า การแก้กฎหมายครั้งนี้รัฐบาลได้เน้นหนักไปที่การทำให้ราคาลอตเตอรี่มีราคาขาย ที่คู่ละ 80 บาท โดยเปิดทางให้สำนักงานสลากฯ นำลอตเตอรี่มาขายผ่านเครื่องจำหน่าย และขายผ่านเคาเตอร์เซอร์วิส หรือร้านสะดวกซื้อได้ เพื่อถ่วงดุลให้ราคาลอตเตอรี่อยู่ที่คู่ละ 80 บาท ซึ่งจะเริ่มจากการนำโควต้าลอตเตอรี่ที่จะหมดอายุในเดือน มิ.ย. และ ส.ค. นี้ มาจำหน่ายก่อน โดยเชื่อว่าการกระจายการจำหน่ายลอตเตอรี่ให้ถึงมือผู้บริโภคมากขึ้น จะเป็นการช่วยลดปัญหาเรื่องราคาแพง และลดการนำลอตเตอรี่มารวมชุด เพื่อโก่งราคาขายได้ โดยผู้ซื้อไม่สามารถเลือกซื้อเลขใดเลขหนึ่งในลักษณะหวย 2 - 3 ตัวหรือรูปแบบลอตโต้ในต่างประเทศได้ แต่เป็นการเพิ่มช่องทางให้ซื้อลอตเตอรี่แบบปกติ ที่มีการจำหน่ายอยู่เท่านั้น และยืนยันว่าสำนักงานสลากฯ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโควต้าขององค์กร สถาบัน หรือผู้ที่มีโควต้าอยู่แล้วแต่อย่างใด ส่วนการจะขายสลากฯ 2 ตัว 3 ตัวด้วยหรือไม่นั้น คงไม่ได้เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้แน่นอน ขณะเดียวกันนายกฯ ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเจรจากับผู้ประกอบการที่เคยมีธุรก รรมกับรัฐในการขายสลากฯ ผ่านเครื่องอัตโนมัติ คือบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด ว่าจะสามารถทำได้ หรือติดข้อกฎหมายหรือไม่



พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาระสำคัญของการแก้ไขร่างพ.ร.บ.สลากฯ เพื่อรองรับให้สำนักงานสลากฯมีอำนาจในการออกสลากรูปแบบวิธีการต่าง ๆ ตามแบบสากลและเปลี่ยนสัดส่วนการจัดสรรรายได้จากการจำหน่ายให้เหมาะสม โดยกำหนดให้คงการจัดสรรเงิน 60% จากยอดขายลอตเตอรี่ทั้งหมดกันไว้เป็นเงินรางวัล และปรับลดเงินนำส่งเข้ารัฐ จากไม่น้อยกว่า 28% เป็นไม่น้อยกว่า 20% และนำส่วนต่างที่เหลือ 5% มาจัดสรรเงินเป็นเงินกองทุนรับซื้อลอตเตอรี่ที่ขายไม่หมด ส่วนอีก 3% ให้นำไปเพิ่มในส่วนของการบริหารงานเป็น 15% จากเดิมที่กำหนดไว้ 12% โดยที่ประชุมได้กำหนดโร้ดแม็พการทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เพื่อเสนอให้สนช.พิจารณาต่อไป



นอก จากนี้ยังได้แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “สลากกินแบ่งรัฐบาล” และ “กองทุนบริหารจัดการสลาก”, แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของสำนักงานสลากฯเพื่อให้ครอบคลุมถึงการออกสลาก กินแบ่งเพื่อสาธารณะประโยชน์และให้มีการจัดการระบบบริหารจัดการสลากฯ และช่องทางจำหน่าย, แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลและระยะเวลาในการดำรง ตำแหน่ง, แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เพิ่มเติมการออกระเบียบหรือข้อบังคับว่าด้วยกองทุนบริหารจัดการสลาก, แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจของผู้อำนวยการให้สอดคล้องโครงสร้างสำนักงานสลากกินแบ่ง รัฐบาล, แก้ไขเพิ่มเติมสัดส่วนการจัดสรรเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายสลากกินแบ่ง, กำหนดวิธีการจัดสรรเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งเพื่อสาธารณ ประโยชน์, แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินที่ได้รับไว้นอกเหนือจากการำหน่ายสลากฯ ดอกผล ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานอายุความสิทธิเรียกร้องเงินรางวัล การวางระบบบัญชี ผู้ตรวจสอบบัญชี และกำหนดมาตรการคุ้มครองแก่เด็กและเยาวชน ไม่ให้เกี่ยวข้องกับสลากฯ



ที่ มา  http://www.dailynews.co.th/Content/economic/306580/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AE!%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B8%B080%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97

ครม. บัดนี้ - ไฟเขียวขายล็อตเตอรี่ในร้านสะดวกซื้อ

"ครม."

ลิงค์: http://iqepi.com/30693/ หรือ
เรื่อง: ไฟเขียวขายล็อตเตอรี่ในร้านสะดวกซื้อ
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---




ครม.ไฟเขียวแก้ก.ม.สลากฯ เพิ่มช่องทางขายลอตเตอรี่ด้วยเครื่อง-ร้านสะดวกซื้อ-เคาน์เตอร์เซอร์วิสหวัง คุมราคาลอตเตอรี่ไม่เกินคู่ละ 80 บาท “บิ๊กตู่” ลั่น 6 เดือนเห็นผล



พล.อ.ประยุทธ์ ​จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติหรือพ.ร.บ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือลอตเตอรี่เกินราคา รวมทั้งให้กฎหมายทันสมัยและรัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยจะส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาข้อกฎหมายภายใน 3 เดือน ทั้งนี้ ครม.ได้หารือกันหลายเรื่องโดยเฉพาะจะทำอย่างไรจะให้ราคาลอตเตอรี่อยู่ในราคา คู่ละ 80 บาท



ทั้ง นี้รัฐบาลกำลังจะปรับระบบทั้งหมดในเรื่องของลอตเตอรี่ คิดว่าภายใน 3 เดือน คงรู้เรื่องในส่วนของกฎหมาย และต้องแก้ให้แล้วเสร็จทั้งหมดใน 6 เดือน โดยจะพยายามทำให้ได้ในทุกวิถีทาง อาจขายทางตู้หรือผ่านเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติก็ได้ ส่งโควต้าไปที่จังหวัด เพื่อให้ทางจังหวัดเป็นผู้รวบรวมตัวแทนขายจะได้ไม่เดือดร้อน หรือจะขายในร้านสะดวกซื้อจะได้หรือไม่ แต่ไม่ใช่เป็นการส่งเสริมการพนัน เดี๋ยวจะหาว่ารัฐบาลส่งเสริมการพนันอีก



“เรา ต้องการลดราคาขายลอตเตอรี่ลงให้ได้เหลือคู่ละ 80 บาท ซึ่งช่วงแรกจะต้องเลือกวิธีกันหน่อย ถ้าการขายผ่านตู้ออนไลน์ไม่ผิดกฎหมาย ก็ว่ากันไป หรือต้องจัดหาซื้อใหม่ เพราะของเก่ายังมีปัญหา และทางจังหวัดต้องขึ้นทะเบียนคนขาย เวลาคิดต้องคิดใหญ่ขนาดนั้น ถ้าคิดแล้วสั่งปุ๊บ มันไม่ได้ และไม่ได้ไปเกรงใจใครทั้งสิ้น จะมีกี่เสือไม่รู้ ไม่มีเสือทั้งนั้น เวลานี้มีเสือตัวเดียวคือรัฐบาลที่ต้องแก้ปัญหาให้ได้ แต่ต้องแก้ด้วยกฎหมาย เพราะผูกพันด้วยคนส่วนใหญ่ ถ้าใช้อำนาจพิเศษมันเดือดร้อนจะใช้เท่าที่จำเป็น สลากฯเป็นความหวังคนจน แต่ซื้อทุกงวดไม่ไหว วันหลังจะลองเปลี่ยนรถนั่งทุกวัน และตั้งแต่ผมเปลี่ยนรถมา ยังไม่เห็นใครถูกหวยเลย แสดงว่าหวยไม่ได้ล็อค"



ด้าน นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวว่า การแก้กฎหมายครั้งนี้รัฐบาลได้เน้นหนักไปที่การทำให้ราคาลอตเตอรี่มีราคาขาย ที่คู่ละ 80 บาท โดยเปิดทางให้สำนักงานสลากฯ นำลอตเตอรี่มาขายผ่านเครื่องจำหน่าย และขายผ่านเคาเตอร์เซอร์วิส หรือร้านสะดวกซื้อได้ เพื่อถ่วงดุลให้ราคาลอตเตอรี่อยู่ที่คู่ละ 80 บาท ซึ่งจะเริ่มจากการนำโควต้าลอตเตอรี่ที่จะหมดอายุในเดือน มิ.ย. และ ส.ค. นี้ มาจำหน่ายก่อน โดยเชื่อว่าการกระจายการจำหน่ายลอตเตอรี่ให้ถึงมือผู้บริโภคมากขึ้น จะเป็นการช่วยลดปัญหาเรื่องราคาแพง และลดการนำลอตเตอรี่มารวมชุด เพื่อโก่งราคาขายได้ โดยผู้ซื้อไม่สามารถเลือกซื้อเลขใดเลขหนึ่งในลักษณะหวย 2 - 3 ตัวหรือรูปแบบลอตโต้ในต่างประเทศได้ แต่เป็นการเพิ่มช่องทางให้ซื้อลอตเตอรี่แบบปกติ ที่มีการจำหน่ายอยู่เท่านั้น และยืนยันว่าสำนักงานสลากฯ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโควต้าขององค์กร สถาบัน หรือผู้ที่มีโควต้าอยู่แล้วแต่อย่างใด ส่วนการจะขายสลากฯ 2 ตัว 3 ตัวด้วยหรือไม่นั้น คงไม่ได้เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้แน่นอน ขณะเดียวกันนายกฯ ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเจรจากับผู้ประกอบการที่เคยมีธุรก รรมกับรัฐในการขายสลากฯ ผ่านเครื่องอัตโนมัติ คือบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด ว่าจะสามารถทำได้ หรือติดข้อกฎหมายหรือไม่



พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาระสำคัญของการแก้ไขร่างพ.ร.บ.สลากฯ เพื่อรองรับให้สำนักงานสลากฯมีอำนาจในการออกสลากรูปแบบวิธีการต่าง ๆ ตามแบบสากลและเปลี่ยนสัดส่วนการจัดสรรรายได้จากการจำหน่ายให้เหมาะสม โดยกำหนดให้คงการจัดสรรเงิน 60% จากยอดขายลอตเตอรี่ทั้งหมดกันไว้เป็นเงินรางวัล และปรับลดเงินนำส่งเข้ารัฐ จากไม่น้อยกว่า 28% เป็นไม่น้อยกว่า 20% และนำส่วนต่างที่เหลือ 5% มาจัดสรรเงินเป็นเงินกองทุนรับซื้อลอตเตอรี่ที่ขายไม่หมด ส่วนอีก 3% ให้นำไปเพิ่มในส่วนของการบริหารงานเป็น 15% จากเดิมที่กำหนดไว้ 12% โดยที่ประชุมได้กำหนดโร้ดแม็พการทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เพื่อเสนอให้สนช.พิจารณาต่อไป



นอก จากนี้ยังได้แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “สลากกินแบ่งรัฐบาล” และ “กองทุนบริหารจัดการสลาก”, แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของสำนักงานสลากฯเพื่อให้ครอบคลุมถึงการออกสลาก กินแบ่งเพื่อสาธารณะประโยชน์และให้มีการจัดการระบบบริหารจัดการสลากฯ และช่องทางจำหน่าย, แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลและระยะเวลาในการดำรง ตำแหน่ง, แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เพิ่มเติมการออกระเบียบหรือข้อบังคับว่าด้วยกองทุนบริหารจัดการสลาก, แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจของผู้อำนวยการให้สอดคล้องโครงสร้างสำนักงานสลากกินแบ่ง รัฐบาล, แก้ไขเพิ่มเติมสัดส่วนการจัดสรรเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายสลากกินแบ่ง, กำหนดวิธีการจัดสรรเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งเพื่อสาธารณ ประโยชน์, แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินที่ได้รับไว้นอกเหนือจากการำหน่ายสลากฯ ดอกผล ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานอายุความสิทธิเรียกร้องเงินรางวัล การวางระบบบัญชี ผู้ตรวจสอบบัญชี และกำหนดมาตรการคุ้มครองแก่เด็กและเยาวชน ไม่ให้เกี่ยวข้องกับสลากฯ



ที่ มา  http://www.dailynews.co.th/Content/economic/306580/%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AE!%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B8%B080%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97

วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กฟภ.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บัดนี้ - ประกาศวันสอบคัดเลือก วุฒิ ปวส.

กฟภ.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

"กฟภ.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค "

ลิงค์: http://iqepi.com/21567/ หรือ
เรื่อง: ประกาศวันสอบคัดเลือก วุฒิ ปวส.
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---


ประกาศการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เรื่อง ประกาศวันสอบคัดเลือก (ตำแนห่งวุฒิ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง)



ตามที่ PEA ได้มีประกาศ ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 เรื่อง ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบคัดเลือกเพื่อปฏิบัติงานกับ PEA ประจำปี 2557 โดยประกาศดังกลา่ว ยกเลิกการสอบในตำแหน่งวุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และ PEA จะจัดให้มีการสอบใหม่ สำหรับกำหนดการสอบ, รายชื่อผู้เข้ารับการสอบคัดเลือกและสถานที่สอบ จะประกาศให้ทราบไม่เกินวันที่ 19 ธันวาคม 2557 โดย PEA ขอสงวนสิทธิ์เฉพาะผู้ที่เข้าสอบในวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2557 นั้น



บัดนี้ PEA ขอประกาศวันสอบคัดเลือกของตำแหน่งวุฒิ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง โดยจะดำเนินการสอลคัดเลือก ในวันที่ 31 มกราคม 2558 สำหรับรายชื่อผู้เข้ารับการสอบคัดเลือกและสถานที่สอบจะประกาศให้ทราบไม่เกินวันที่ 16 มกราคม 2558



ประกาศ ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2557



ดาวน์โหลดประกาศรับสมัครสอบ คลิกที่นี่ | เว็บไซต์สมัครสอบ กฟภ.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คลิกที่นี่

องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก บัดนี้ -16 ม.ค. 2558 สอบชิงทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2558

องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก

"องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก"

ลิงค์: http://iqepi.com/21566/ หรือ
เรื่อง: สอบชิงทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2558
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---


องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความประสงค์จะเปิดรับสมัครบุตรของทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 2 บัตรชั้นที่ 3 และบัตรชั้นที่ 4 ที่กำลังศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2557 เพื่อทำการสอบชิงทุนการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2558ทุนละ 5,000 บาท ต่อปีการศึกษา เพื่อศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า จนจบปริญญาตรีในประเทศ โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ – วันที่ 16 มกราคม 2557 ในวันและเวลาราชการ กำหนดสอบวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2558 และ ประกาศผลสอบวันที่ 24 เมษายน 2558 ผู้ประสงค์สมัครสอบชิงทุนการศึกษาดังกล่าวสามารถติดต่อสอบถาม และสมัครสอบได้ที่ สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตราชบุรี เลขที่ 102/2 หมู่ที่ 10 ตำบลเจดีย์หัก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี โทร. 0-3232-3392 ในวันและเวลาราชการ

กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน บัดนี้ - รับสมัครคัดเลือกบุคลากรภาครัฐเพื่อรับทุนรัฐบาลไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ ประจำปี 2558 รวม 3 ทุน

กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน

"กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน"

ลิงค์: http://iqepi.com/21502/ หรือ
เรื่อง: รับสมัครคัดเลือกบุคลากรภาครัฐเพื่อรับทุนรัฐบาลไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ ประจำปี 2558 รวม 3 ทุน
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---
ดาวน์โหลดประกาศรับสมัครสอบ คลิกที่นี่

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สสวท. บัดนี้ - ทุนโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) ระดับปริญญาโททางการศึกษา ประเภท Premium ประจำปีการศึกษา 2557

สสวท.

"สสวท."

ลิงค์: http://iqepi.com/21232/ หรือ
เรื่อง: ทุนโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) ระดับปริญญาโททางการศึกษา ประเภท Premium ประจำปีการศึกษา 2557
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---


ด้วยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาสาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้ประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักศึกษาทุนโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) ระดับปริญญาโททางการศึกษา ประเภท Premium ประจำปีการศึกษา 2557 จำนวน 355 ทุน



ดาวน์โหลดไฟล์แนบ



 สควค.pdf  | ประกาศ.pdf  | สรุปรายวิชาที่ตรงกับสาขาที่สมัครสอบ.pdf  รายชื่อศูนย์ที่เข้าร่วมโครงการ.pdf   

วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สำนักงานประกันสังคม บัดนี้ - รับสมัครผู้ประกันตน ม.40 ประมาณ 7-16 ก.พ.58

สำนักงานประกันสังคม

"สำนักงานประกันสังคม"

ลิงค์: http://iqepi.com/20415/ หรือ
เรื่อง: รับสมัครผู้ประกันตน ม.40 ประมาณ 7-16 ก.พ.58
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---


แบบคำขอสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 (สปส.1-40)



7 ธ.ค.57 เพิ่งทราบข่าว



ได้แจ้งผ่านทางเฟสบุ๊คเกี่ยวกับเรื่องการรับสมัครผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สำหรับผู้มีอายุเกิน 60 ปี ด้วยว่าวันที่ 8 ธ.ค. 57 จะเป็นวันสุดท้ายและพี่ชายเพิ่งโทรมาแจ้งให้ทราบ จนส่วนตัวเองก็พาว่าที่ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สำหรับผู้มีอายุเกิน 60 ปี ไปสมัครไม่ทันเช่นกัน



8 ธ.ค.57 สำนักงานประกันสังคมแตก!!



หลังจากนั้นวันที่ 8 ธ.ค. ก็มีข่าวจากสื่อต่างๆ ว่ามีผู้สนใจไปสมัครเป็นจำนวนมาก แบบล้นทะลักสำนักงานกันเลย แต่ก็มิใช่ทุกท่านจะได้สมัคร มีผู้สนใจสมัครจำนวนมากต้องพลาดการสมัครเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 หลายคนก็บอกว่าไม่รู้เรื่องเลยมารู้เอาวันสุดท้าย ทางสำนักงานประกันสังคมก็ยอมรับว่ามีปัญหาในการประชาสัมพันธ์ ทำให้ไม่สามารถประชาสัมพันธ์ได้อย่างทั่วถึง ทำให้ประชาชนแห่กันมาในวันสุดท้ายต่อคิวล้นทะลักสำนักงานประกันสังคม โดยส่วนตัวถามจำไม่ผิดก่อนหน้านี้ได้ยินเพียงการรับสมัครผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 อายุ 15-60 ปีเท่านั้น ไม่มีการเจาะรายละเอียดว่าผู้ที่มีอายุ 65 ปี สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ภายในวันที่ 7 ธ.ค. 56 - 8 ธ.ค. 57 เท่านั้น และต้องโทษตัวเองที่อ่านไม่ละเอียดในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน



อย่างไรก็ตาม เสียงโวย เสียงบ่น ของประชาชน ก็ไปถึงหู..นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา



9 ธ.ค. 57 ฟ้ายังมีตา



นายกฯ สั่งสำนักงานประกันสังคม ดำเนินการขยายวันรับสมัครเพิ่มอีก 10 วัน แต่ด้วยขั้นตอนการดำเนินการที่ต้องแก้ พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. 2554 (มาตรา 40) เนื่องจากตัวเดิมกำหนดบทเฉพาะกาลไว้ถึงวันที่ 8 ธ.ค. 57 เท่านั้น หากจะขยายไปอีก 10 วันก็ต้องแก้ไขก่อน ตอนนั้นข่าวว่าจะดำเนินการให้ทันก่อนปีใหม่ ด้วยนายกฯ ต้องการมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่



11 ธ.ค. 57 ได้เป็น "ของขวัญวาเลนไทน์" แทนของ "ขวัญปีใหม่"



ทางสำนักงานประกันสังคม ด้วยขั้นตอนซึ่งต้องใช้เวลา คาดว่าจะไม่ทันก่อนปีใหม่ โดยสำนักประกันสังคมได้ทำเอกสารแจงขั้นตอนดำเนินงานแก้ไข พ.ร.ฎ. ดังกล่าว ระบุว่า ได้ทำเอกสารเสนอคณะกรรมการประกันสังคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ได้ทำหนังสือเสนอปลัดกระทรวงแรงงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อเสนอ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ทำหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอ ครม. โดยคาดว่าวันที่ 30 ธันวาคมนี้ จะนำไปสู่ขั้นตอนต่าง ๆ ตามกระบวนการ เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 30 มกราคม 2558

ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถรับสมัครผู้ประกันตนกลุ่มใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 7-16 กุมภาพันธ์ 2558 ตามเป้าหมาย แต่ขั้นตอนการลงพระปรมาภิไธยใน พ.ร.ฎ. นั้น ย่อมขึ้นอยู่กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กลับลงมา ส่วนกรณีที่กระทรวงแรงงานสามารถนำนโยบายของนายกรัฐมนตรีไปประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คาดระยะเวลาอาจสำเร็จในเวลารวดเร็วกว่าที่กำหนด



(กำหนดการรับสมัคร 7-16 ก.พ.58 ยังไม่ใช่กำหนดการอย่างเป็นทางการเป็นเพียงการคาดการจากแผนการดำเนินการเท่านั้น)




จากศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม (สปส.)



สปส. เตรียมขยายเวลารับสมัครผปต.ตาม ม.40 สำหรับผู้มีอายุเกิน 60 ปี
กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม เตรียมแก้กฎหมายขยายเวลารับสมัครผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สำหรับผู้มีอายุเกิน 60 ปี อีก 10 วัน เพื่อรองรับการสมัครผู้ประกันตนกลุ่มใหม่ คาดว่าสามารถรับสมัครผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้
นางปราณิน มุตตาหารัช เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า หลังการปิดรับสมัครผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนให้ความสนใจมาสมัครเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น สำนักงานประกันสังคมจึงได้พิจารณาแก้ไขพระราชกฤษฎีกาฯ ขยายระยะเวลาการเปิดรับสมัครผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ให้กับประชาชนที่มีอายุเกิน 60 ปี ออกไปอีก 10 วัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ให้ครม.อนุมัติหลักการและส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาตามขั้นตอนของการออกกฎหมาย โดยคาดว่าจะสามารถรับสมัครผู้ประกันตนกลุ่มใหม่ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงและความคืบหน้าเพิ่มเติมประการใด ทางสำนักงานประกันสังคมจะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ ทั้ง 12 แห่ง สำนักงานประกันสังคมจังหวัด / สาขาที่ท่านสะดวก หรือโทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)






รายละเอียดคร่าวๆ สำหรับสมัครเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 ขอกล่าวเฉพาะกรณีผู้มีอายุเกิน 65 ปี เพระจำกัดระยะเวลารับสมัครหากเลิกจากกำหนดการรับสมัคร ก็จะไม่สามารถสมัครได้อีกต่อไป และมีเงื่อนไขที่พิเศษกว่า ผู้สมัครที่มีอายุ 15-60 ปี ส่วนผู้ที่อายุ 15-60 ปี สามารถสมัครได้ตลอดเวลา เมื่อไรก็ได้ และมีเงื่อนไข ทางเลือกการสมัครที่มากกว่า ขอให้ศึกษารายละเอียดจากลิงค์ด้านล่าง



การสมัคร




  1. เบื้องต้นคาดว่ารับสมัคร 7-16 ก.พ. 58 (อย่างไม่เป็นทางการอาจมีการเปลี่ยนแปลง)


  2. อายุ 65 ปีขึ้นไปไม่จำกัด (มียายอายุร้อยกว่าปีได้สมัครด้วยเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.57)


  3. สมัครได้เพียงทางเลือกที่ 3 เท่านั้น (จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน รัฐสนับสนุน 100 บาท/เดือน)


  4. พิการก็สมัครได้ แต่ทุพพลภาพสมัครไม่ได้


  5. ทำหนังสือมอบฉันทะให้ลูกหลานไปสมัครแทนได้


  6. จ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้ถึงเดือน พฤษภาคม 2555


  7. จ่ายเงินสมทบเกิน 100 บาท/เดือน แต่ไม่เกิน 1,000 บาทได้  แต่รัฐก็ยังคงสมทบเพียง 100 บาท/เดือน ส่วนเกิน 1,000 บาท สำนักงานประกันสังคมจะคำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ย 3-6% ต่อปี เนื่องจากกองทุนฯ ได้รับผลตอบแทนจากการนำเงินกองทุนฯ ไปลงทุนในด้านต่างๆ และเมื่อมีคำว่าลงทุนนั่นย่อมมีคำว่าผลกำไร/ขาดทุน หากเงินที่กองทุนฯ นำไปลงทุนได้รับผลกำไรมาก การคำนวณอัตราดอกเบี้ยให้ผู้ประกันตนก็จะมาก แต่หากได้รับผลตอบแทนน้อยอัตราดอกเบี้ยก็จะลดลง แต่ตามที่ฟังข่าวว่า 3-6% ถ้าจริงก็นับว่าสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ แต่ก็เป็นรื่องปกติเพราะการลงทุนมีความเสี่ยง อัตราความเสี่ยงที่จะได้ผลกำไรหรือขาดทุนจากการที่กองทุนฯ นำเงินไปลงทุนในด้านต่างๆ เสียงมากผลตอบแทนมาก เสี่ยงน้อยผลตอบแทนน้อย แต่เฉลี่ยจากการแบ่งเงินไปลงทุนในด้านต่างๆ แล้วก็อาจจะกลายเป็นกำไรน้อยหรือกำไรมากไม่ถึงกับขาดทุน เหมือนบางกองทุนที่เคยเป็นข่าว (มั้ง)



สิทธิประโยชน์ต่างๆ ศึกษาได้จากลิงค์ด้านล่าง



**รายละเอียด ผู้ประกันตน ม. 40 คลิกเลือกหน้า: 1 | 2 | 3


ดาวน์โหลดประกาศรับสมัครสอบ คลิกที่นี่

วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อัตราการปรับเงินเดือน บัดนี้ - ขรก. รบ.ประยุทธ์

อัตราการปรับเงินเดือน

"อัตราการปรับเงินเดือน"


ลิงค์: http://iqepi.com/20346/ หรือ
เรื่อง: ขรก. รบ.ประยุทธ์
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**




---





















































































































ตำแหน่งประเภทบริหาร
ระดับขั้นสูงขั้นต่ำขั้นต่ำชั่วคราว
บ.1          74,320            51,140         24,400
บ.2          76,800            56,380         29,980
ตำแหน่งประเภทอำนวยการ
ระดับขั้นสูงขั้นต่ำขั้นต่ำชั่วคราว
อ.1          59,500            26,660         19,860
อ.2          70,360            32,850         24,400
ตำแหน่งประเภทวิชาการ
ระดับขั้นสูงขั้นต่ำขั้นต่ำชั่วคราว
ว.1          26,900              8,340          7,140
ว.2          43,600            15,050         13,160
ว.3          58,390            22,140         19,860
ว.4          69,040            31,400         24,400
ว.5          76,800            31,400         29,980
ตำแหน่งประเภททั่วไป
ระดับขั้นสูงขั้นต่ำขั้นต่ำชั่วคราว
ท.1          21,010              4,870 - 
ท.2          38,750            10,190 - 
ท.3          54,820            15,410 - 
ท.4          69,040            48,220 - 

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2557 ซึ่งมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการอนุมัติขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการและพนักงานราชการทุกประเภท ซึ่งเป็นไปตาม สำนักงาน ก.พ. เสนอ โดยจะมีการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการและพนักงานราชการทุกประเภท 1.98 ล้านคน ใช้งบ 22,900 ล้านบาท โดยปรับเพิ่มให้ 3 ขั้น หรือประมาณ 10% สำหรับบัญชีเงินเดือนแบบช่วง มีข้าราชการอีก 6 ประเภท ได้ขึ้นเงินเดือนเพิ่มเติมอีก 1 ขั้น หรือ 4% ส่วนกลุ่มข้าราชการที่อัตราเงินเดือนเต็มเพดานแล้ว ให้นำค่าตอบแทนพิเศษมารวมเป็นเงินเดือนได้

เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล แนวทางการยกระดับรายได้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐชั้นผู้น้อยโดยรวมตาม ที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นชอบ  และหลักการกำหนดค่าตอบแทนของพนักงานราชการ ฝ่ายเลขานุการจึงได้เสนอแนวทางดำเนินการและวัตถุประสงค์ เพื่อปรับรายได้ของพนักงานราชการให้มีรายได้ที่เพียงพอต่อการดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรี เพื่อจะได้ปฏิบัติตนและอุทิศตัวเพื่อประโยชน์สุขของสังคม  ทั้งนี้ การปรับเพิ่มรายได้ของพนักงานราชการควรสอดคล้องกับภาวการณ์ค่าครองชีพที่ เพิ่มขึ้น โดยไม่สร้างภาระงบประมาณมากจนเกินควร และคำนึงถึงผลกระทบต่อต้นทุนการจ้างงานภาคเอกชน

โดยมีการปรับบัญชีค่าตอบแทนให้กับพนักงานราชการกลุ่มงานบริการ กลุ่มงานเทคนิคทั่วไป กลุ่มงานบริหารทั่วไป และกลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2557 โดยเทียบเคียงกับข้าราชการประเภทวิชาการระดับตำแหน่งไม่เกินระดับชำนาญการ ทั้งนี้ ประมาณการพนักงานราชการที่จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มมีจำนวน 126,200 คน

ให้มีการปรับเพดานบัญชีค่าตอบแทนขั้นสูงกลุ่มงานบริการ กลุ่มงานเทคนิคทั่วไป กลุ่มงานบริหารทั่วไป และกลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ อีกร้อยละ 4 เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับค่าตอบแทนของพนักงานราชการ เช่นเดียวกับการปรับบัญชีค่าตอบแทนของพนักงานราชการทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับวันเดียวกับการปรับเพิ่มเพดานเงินเดือนขั้นสูงของข้าราชการ พลเรือนสามัญ 

โดยการปรับบัญชีเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประกอบด้วยสาระสำคัญ 3 ประการ คือ

1. การปรับบัญชีเงินเดือนและการแก้ไขกฎหมาย ขยายเพดานเงินเดือนขั้นสูงของทุกระดับหรือทุกอันดับของข้าราชการและเจ้า หน้าที่ของรัฐทุกประเภทเพิ่มขึ้น 3 ขั้น สำหรับบัญชีเงินเดือนแบบขั้น หรือประมาณร้อยละ 10 สำหรับบัญชีเงินเดือนแบบช่วง รวมทั้งปรับปรุงบัญชีเงินเดือนข้าราชการให้สอดคล้องกับการดำรงตำแหน่ง โดยในส่วนของข้าราชการพลเรือนสามัญ ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการได้รับเงินเดือนโดยแก้ไขชื่อระดับในบัญชีเงิน เดือนเพื่อให้ข้าราชการได้รับเงินเดือนในระดับสูงกว่าหรือต่ำกว่าระดับ ตำแหน่งที่ดำรงได้

รวมทั้งปรับปรุงบทบัญญัติเพื่อให้ ก.พ. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเยียวยาให้ข้าราชการได้รับเงินเดือนและ/หรือเงินประจำตำแหน่ง ได้ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ปรับปรุงจำนวนขั้นเงินเดือนของบางระดับให้สอดคล้องกับระดับชั้นยศ ข้าราชการตำรวจปรับปรุงจำนวนขั้นเงินเดือนของบางระดับ ให้สอดคล้องกับระดับชั้นยศ และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

และจะมีการปรับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับครูผู้ช่วยมากกว่าร้อยละ 10 เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของคุณวุฒิปริญญาเอก ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557

2. การปรับเงินเดือนข้าราชการ ให้ข้าราชการได้รับการปรับเงินเดือนเพิ่ม 1 ขั้น สำหรับระบบเงินเดือนแบบขั้น หรือร้อยละ 4 ของอัตราเงินเดือน สำหรับระบบเงินเดือนแบบช่วง ณ วันที่บัญชีเงินเดือนข้าราชการมีผลใช้บังคับ ในกรณีที่การปรับอัตราเงินเดือนดังกล่าวทำให้อัตราใดมีเศษไม่ถึงสิบบาทให้ ปัดเป็นสิบบาท โดยปรับเงินเดือนให้ข้าราชการ 6 ประเภท ดังนี้

1) ข้าราชการพลเรือนสามัญ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติการและระดับชำนาญ การ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงานและระดับ ชำนาญงาน
2) ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่ระดับ น.3 ลงมา
3) ข้าราชการตำรวจ ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่ระดับ ส.3 ลงมา
4) ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่อันดับ คศ.2 ลงมา
5) ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ผู้ดำรงตำแหน่งวิชาการซึ่งรับเงินเดือนตำแหน่งอาจารย์ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะซึ่งรับเงินเดือน ระดับปฏิบัติการและระดับชำนาญการ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงานและระดับชำนาญ งาน
6) ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติการและระดับชำนาญ การ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงานและระดับ ชำนาญงาน

3. กรณีการได้รับเงินเดือนกรณีข้าราชการได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูง ให้ข้าราชการผู้ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูง (เงินเดือนตัน) และได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบ แทนพิเศษของข้าราชการและลูกจ้างประจำผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้น สูงหรือใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นำค่าตอบแทนพิเศษตามผลการประเมินในรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน 2557 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2557 มารวมเป็นเงินเดือนตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ในกรณีที่อัตราค่าตอบแทนพิเศษดังกล่าวรวมกับเงินเดือนแล้วมีเศษไม่ถึงสิบบาท ให้ปัดเป็นสิบบาท

ทั้งนี้ การปรับเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ จะครอบคลุมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทต่าง ๆ รวมประมาณ 1.98 ล้านคน ประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการรัฐสภาสามัญ พนักงานราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในองค์กรอิสระและองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยสำนักงบประมาณได้จัดเตรียมงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ แล้ว

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีได้อนุมติให้มีการปรับค่าครองชีพในส่วนของการปรับเงินเพิ่มการ ครองชีพชั่วคราว  ให้พนักงานราชการที่ได้รับการจ้างวุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรีที่มี ค่าตอบแทนไม่ถึง 13,285 บาท ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 2,000 บาท  แต่เมื่อรวมกับค่าตอบแทนแล้วต้องไม่เกินเดือนละ 13,285 บาท และกรณีที่รวมกันแล้วมีค่าตอบแทนไม่ถึง 10,000 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากค่าตอบแทนอีกจนถึงเดือนละ 10,000 บาท ประมาณการพนักงานราชการที่จะได้รับการเงินเพิ่มดังกล่าวจำนวน  35,500 คน โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557

วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กรมการปกครอง บัดนี้ - จัดอบรมหลักสูตรนายอำเภอฟรี!!

กรมการปกครอง

"กรมการปกครอง"

ลิงค์: http://iqepi.com/20084/ หรือ
เรื่อง: จัดอบรมหลักสูตรนายอำเภอฟรี!!
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---


กรมการปกครองได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ที่ มท. 0302.2/ว19324 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2557  เรื่อง การคัดเลือกข้าราชการ เพื่อข้าเรับการศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557



ตามที่กรมการปกครองได้กำหนดให้มีการคัดเลือกข้าราชการ เพื่อเข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 รุ่นที่ 73 และ รุ่นที่ 74 โดยกำหนดวันสอบในวันเสาร์ที่ 17 มกราคม 2558 ณ อาคารศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) นั้น



กรมการปกครองตระหนักดีว่า การสอบคัดเลือกเข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอเป็นเส้นทางาความก้าวหน้าที่สำคัญในการรับราชการในกรมการปกครอง ในขณะเดียวกันในการเตรียมตัวสอบคัดเลือกเข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอเป็นโอกาสอันดีที่ข้าราชการกรมการปกครองจะได้ทบทวนความรู้ในระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการ ดังนั้น เพื่อให้ข้าราชการกรมการปกครองที่เข้สอบดังกล่าวได้มีโอกาสทบทวนและเสริมความรู้ความเข้าใจในระเบียบกฎหมายที่ใช้การสอบโดยไม่ต้องไปเสียค่าใช้จ่ายในการติวหรือกวดวิชา กรมการปกครงอจึงกำหนดจัดการบรรยายแนะนำความรู้ในระเบียบกฎหมายที่ใช้ในการสอบ โดยวิทยากรของกรมการปกครองผ่านระบบ DCPA Web Conference โดยจะดำเนินการในระหว่างวันที่ 15-23 ธันวาคม 2557 และผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมฟังในวันเวลาดังกล่าว สามารถดูย้อนหลังได้ใน Website ของกรมการปกครอง ทั้งนี้ จะได้แจ้งรายละเอียดและกำหนดการบรรยายให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง


ครม. บัดนี้ - ครม.เห็นชอบขึ้นเงินเดือน ทหาร ตำรวจ ครู และข้าราชการพลเรือน/พนักงานราชการ มีผล 1 ธ.ค. 57

ครม.

"ครม."

ลิงค์: http://iqepi.com/20039/ หรือ
เรื่อง: ครม.เห็นชอบขึ้นเงินเดือน ทหาร ตำรวจ ครู และข้าราชการพลเรือน/พนักงานราชการ มีผล 1 ธ.ค. 57
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---


9 ธ.ค. - ครม.เห็นชอบขึ้นเงินเดือน ทหาร ตำรวจ ครู และข้าราชการพลเรือนทุกกลุ่ม 4% รวมถึงค่าตอบแทนพนักงานราชการ พร้อมขยายเพดานเงินเดือนอีก 10% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.57 เป็นต้นไป

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ สำนักงาน กพ. เสนอ ดังนี้ (1) การปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวให้พนักงานราชการที่ได้รับการจ้างวุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรี ที่มีค่าตอบแทนไม่ถึง 13,285 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ 2,000 บาท แต่เมื่อรวมกับค่าตอบแทนแล้ว ต้องไม่เกินเดือนละ 13,285 บาท และกรณีที่รวมกันแล้วมีค่าตอบแทนไม่ถึง 10,000 บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากค่าตอบแทนอีกจนถึงเดือนละ 10,000 บาท โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557

(2) ให้พนักงานราชการกลุ่มงานบริการ กลุ่มงานเทคนิคทั่วไป กลุ่มงานบริหารทั่วไป และกลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มร้อยละ 4 โดยให้มีผลใช้บังคับ 1 ธันวาคม 2557 (3) ปรับเพดานบัญชีค่าตอบแทนขั้นสูง กลุ่มงานบริการ กลุ่มงานเทคนิคทั่วไป กลุ่มงานบริหารทั่วไป และกลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ ร้อยละ 4 และให้มีผลใช้บังคับวันเดียวกับการปรับเพิ่มเพดานเงินเดือนขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญ

คณะรัฐมนตรียังมีมติเห็นชอบในหลักการของร่างกฎหมายเพื่อปรับเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการรัฐสภาสามัญ และข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 และเห็นชอบในหลักการการปรับเงินเดือนข้าราชการ หลักการการได้รับเงินเดือนกรณีข้าราชการได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูง รวมถึงอนุมัติให้ใช้งบประมาณเพื่อการปรับเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ

1.การปรับบัญชีเงินเดือนและการแก้ไขกฎหมายขยายเพดานเงินเดือนขั้นสูงของทุกระดับ หรือทุกอันดับ ของข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทเพิ่มขึ้น 3 ขั้น สำหรับบัญชีเงินเดือนแบบขั้น หรือประมาณร้อยละ 10 สำหรับบัญชีเงินเดือนแบบช่วง รวมทั้งปรับปรุงบัญชีเงินเดือนข้าราชการให้สอดคล้องกับการดำรงตำแหน่ง โดยในส่วนของข้าราชการพลเรือนสามัญ ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการได้รับเงินเดือน โดยแก้ไขชื่อระดับในบัญชีเงินเดือน เพื่อให้ข้าราชการได้รับเงินเดือนในระดับสูงกว่าหรือต่ำกว่าระดับตำแหน่งที่ดำรงได้ รวมทั้งปรับปรุงบทบัญญัติเพื่อให้ ก.พ.กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเยียวยาให้ข้าราชการได้รับเงินเดือน และหรือเงินประจำตำแหน่งได้ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ปรับปรุงจำนวนขั้นเงินเดือนของบางระดับ (ป.3 และ น.1-น.3) ให้สอดคล้องกับระดับชั้นยศ ข้าราชการตำรวจปรับปรุงจำนวนขั้นเงินเดือนของบางระดับ (ป3. และ ส.1-ส3) ให้สอดคล้องกับระดับชั้นยศ และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ปรับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับครูผู้ช่วยมากกว่าร้อยละ 10 เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของคุณวุฒิปริญญาเอก ทั้งนี้ โดยการแก้ไขบัญชีเงินเดือนแนบท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการประเภทต่างๆ และให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557

2.การปรับเงินเดือนข้าราชการ ให้ข้าราชการได้รับการปรับเงินเดือนเพิ่ม 1 ขั้น สำหรับระบบเงินเดือนแบบขั้น หรือร้อยละ 4 ของอัตราเงินเดือน สำหรับระบบเงินเดือนแบบช่วง ณ วันที่บัญชีเงินเดือนข้าราชการมีผลใช้บังคับ ในกรณีที่การปรับอัตราเงินเดือนดังกล่าวทำให้อัตราใดมีเศษไม่ถึง 10 บาท ให้ปัดเป็น 10 บาท โดยปรับเงินเดือนให้ข้าราชการ ดังนี้ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการซึ่งรับเงินเดือน ระดับปฏิบัติการ และระดับชำนาญการ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป ซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงาน และระดับชำนาญงาน ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่ระดับ น.3 ลงมา ข้าราชการตำรวจ ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่ระดับ ส.3 ลงมา ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งรับเงินเดือนตั้งแต่อันดับ คศ.2 ลงมา ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ผู้ดำรงตำแหน่งวิชาการซึ่งรับเงินเดือนตำแหน่งอาจารย์ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะหรือเชี่ยวชาญเฉพาะ ซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติการ และระดับชำนาญการ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงาน และระดับชำนาญงาน ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติการ และระดับชำนาญการ และผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไปซึ่งรับเงินเดือนระดับปฏิบัติงาน และระดับชำนาญงาน

3.การได้รับเงินเดือนกรณีข้าราชการได้รับเงินเดือนถึงขึ้นสูง ให้ข้าราชการผู้ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูง (เงินเดือนตัน) และได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการและลูกจ้างประจำผู้ได้รับเงินเดือน หรือค่าจ้างถึงขั้นสูง หรือใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม นำค่าตอบแทนพิเศษตามผลการประเมินในรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2557 ถึง วันที่ 30 กันยายน 2557 มารวมเป็นเงินเดือนตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 ในกรณีที่อัตราค่าตอบแทนพิเศษดังกล่าวรวมกับเงินเดือนแล้วมีเศษไม่ถึง 10 บาทให้ปัดเป็น 10 บาท

ทั้งนี้ การปรับเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐจะครอบคลุมข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทต่างๆ รวมประมาณ 1.98 ล้านคน ประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการทหาร ทหารกองประจำการ และนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการรัฐสภาสามัญ พนักงานราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในองค์กรอิสระและองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานศาลปกครอง และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยสำนักงบประมาณได้จัดเตรียมงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้ว - สำนักข่าวไทย

"ประยุทธ์" สั่ง บัดนี้ - ขยายสมัคร ผู้ประกันตน ม.40

ประยุทธ์

" "ประยุทธ์" สั่ง"


ลิงค์: http://iqepi.com/20040/ หรือ
เรื่อง: ขยายสมัคร ผู้ประกันตน ม.40
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**




---



พ่อแก่-แม่เฒ่า เฮลั่น "ประยุทธ์" สั่ง "บิ๊กเต่า" ขยายสมัคร ผู้ประกันตน ม.40 เป็นของขวัญปีใหม่ เร่งแก้ ก.ม.เปิดรับสมัครใหม่ 10 วัน หลังคนโวยไม่รู้ข่าว ทำอดใช้สิทธิสะสมเงินออม รมว.แรงงาน ยัน ไม่ได้อ่อน ปชส. โบ้ยโครงการเกิดมาก่อนเป็นรัฐมนตรี สรุปยอดสมัครพุ่งกว่า 2.2 ล้านคน

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน กล่าวว่า การเปิดรับสมัครผู้ประกันตน มาตรา 40 อายุ 60 ปีขึ้นไปในวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. มีผู้สูงอายุสมัครเป็นจำนวนมาก มีกระแสเรียกร้องให้ขยายเวลารับสมัคร แต่ยังไม่ทราบว่าจะทำได้หรือไม่ ถ้ามีการขยายจะต้องแก้ไขพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้อง มีคนถามตนว่า ทำไมไม่ประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึง จึงต้องชี้แจงว่า เรื่องนี้ทำมาก่อนที่ตนมาเป็นรัฐมนตรี แต่ลักษณะนิสัยคนไทยชอบมาในช่วงวันสุดท้าย

ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 40 ในอนาคตจะรวมเป็นเนื้อเดียวกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) หรือไม่ ก็ต้องมีการศึกษา หากรวมกันแล้วดีก็ควรรวมกัน แต่หากรวมแล้วไม่ดีก็ควรแยก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 16.00 น. นางปราณิน มุตตาหารัช เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยหลังเดินทางเข้าพบ พล.อ.สุรศักดิ์ ที่กระทรวงแรงงาน ว่า หลังปิดรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี ไปเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีประชาชนให้ความสนใจสมัครเข้ามาเป็นจำนวนมาก และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถสมัครได้ทันภายในระยะเวลากำหนด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้กระทรวงแรงงานไปดำเนินการแก้พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคล ซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. 2554 (มาตรา 40) เพื่อขยายระยะเวลาการเปิดรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 ให้กับประชาชนที่มีอายุเกิน 60 ปี ที่ตกค้างไม่สามารถสมัครได้ทันภายในวันที่ 8 ธ.ค. ได้หารือกับฝ่ายกฎหมายและได้แจ้งว่า จะขยายระยะเวลาการรับสมัครให้อีก 10 วัน ภายหลังการแก้ไข พ.ร.ฎ. เสร็จสิ้น ทั้งนี้ จะดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนปีใหม่ เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชน

ด้านนายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด) สปส. กล่าวว่า มาตรา 40 โดยเฉพาะทางเลือกที่ 3 ต้องการให้ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 65 ปี ได้ออมเงินเพื่อเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ดังนั้น หากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ควรออกจากการเป็นผู้ประกันตนเพื่อให้ได้รับเงินออมชราภาพ รวมทั้งอยากให้ทุกคนคำนึงถึงผลกระทบต่อความมั่นคงในอนาคตของกองทุนประกัน สังคม มาตรา 40 ด้วย

นายนคร กล่าวอีกว่า มาตรา 40 โดยเฉพาะทางเลือกที่ 3 ต้องการให้ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 65 ปี ได้ออมเงินเพื่อเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ส่วนที่ห่วงกันว่าผู้ประกันตนในส่วนของเงินชราภาพ ที่สมัครแล้วจ่ายย้อนหลังไปถึงเดือน พ.ค. 2555 จำนวน 3,200 บาท และรัฐทบให้อีกเท่าตัว จะถอนเงินออกมาใช้ ไม่เก็บออมตามเจตนารมณ์ของมาตรา 40 อยากเตือนให้เก็บเงินก้อนนี้ไว้ในยามจำเป็นจริงๆ ถ้าไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรถอนออกจากความเป็นผู้ประกันตน ขอให้คำนึกถึงผลกระทบกองทุนด้วย

นางเซี่ยมกี่ นิลทองคำ ผอ.สำนักเสริมสร้างความมั่นคงแรงงานนอกระบบ สำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงวันที่ 8 ธ.ค. 2557 ทั่วประเทศมีผู้สมัครประกันสังคมมาตรา 40 ทั้ง 5 ทางเลือก รวมกว่า 2.2 ล้านคน เฉพาะวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่เป็นวันรับสมัครวันสุดท้าย มาตรา 40 ในส่วนของผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปยอดทั้งหมด แต่เบื้องต้นที่มีการบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แล้ว 7.5 หมื่นคนทั่วประเทศ สำหรับคนอายุ 15-60 ปี ยังสมัครได้ตามปกติ - ไทยรัฐ

ข้อมูลการสมัคร คลิกเลือกหน้า 18arrow4 1 2 3 4





หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
ที่มา
การขยายประกันสังคมให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบโดยผลักดันร่าง พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ฉบับแก้ไข เพื่อรัฐร่วมจ่ายในมาตรา 40 และแก้ไขพระราชกฤษฎีกา เพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ของมาตรา 40 ให้เป็นที่จูงใจ โดยเป็นระบบสมัครใจ

ความหมาย
ผู้ประกันตนมาตรา 40 หมายถึง บุคคลที่มิใช่ลูกจ้างตามมาตรา 33 หรือเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39 เรียกว่า ผู้ประกันตนโดยอิสระ

คุณสมบัติผู้สมัคร

อายุ 15-60 ปีบริบูรณ์  ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33  มาตรา 39  ไม่เป็นข้าราชการหรือบุคคลที่ถูกยกเว้นตามกฎหมายประกันสังคม

บุคคลพิการที่สามารถรับรู้สิทธิประกันสังคม
เฉพาะปีแรก (มีผลบังคับใช้วันที่ 9 ธันวาคม 2556 - วันที่ 8 ธันวาคม 2557)  เปิดโอกาสให้ผู้สมัครที่มีอายุ 60-65 ปี   สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ได้ทุกทางเลือก
สำหรับผู้สมัครที่มีอายุ เกินกว่า 65 ปี  เฉพาะปีแรก (มีผลบังคับใช้วันที่ 9 ธันวาคม 2556 - วันที่ 8 ธันวาคม 2557)  สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ได้เฉพาะทางเลือก 3 เท่านั้น  และไม่มีสิทธิเปลี่ยนทางเลือก
หลักฐานการสมัคร

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่หน่วยงานราชการออกให้ (ใบอนุญาตขับขี่รถ)
สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศเลือกทางเลือกใน การจ่ายเงินสมทบได้  3 ทางเลือก คือ

ทางเลือกที่ 1  จ่ายเงินสมทบ  100  บาท/เดือน  (จ่ายเอง 70  บาท  รัฐสนับสนุน 30 บาท)

ทางเลือกที่ 2  จ่ายเงินสมทบ  150  บาท/เดือน  (จ่ายเอง 100 บาท รัฐสนับสนุน 50 บาท)

ทางเลือกที่ 3  มี 3 ทางเลือก ดังนี้

ทางเลือกที่  3    จ่ายเงินสมทบ  200  บาท/เดือน  (จ่ายเอง 100 บาท  รัฐสนับสนุน 100 บาท)
ทางเลือกที่ 1 และทางเลือก 3 (1+3)  จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน (จ่ายเอง 170 บาท รัฐสนับสนุน 130 บาท)
ทางเลือกที่  2 และทางเลือก 3 (2+3)  จ่ายเงินสมทบ 350 บาท/เดือน  (จ่ายเอง 200 บาท  รัฐสนับสนุน 150 บาท)
หมายเหตุ

รัฐสนับสนุนในระยะแรกทั้งนี้ จนกว่าสำนักงานประกันสังคมจะประกาศเป็นอย่างอื่น

ทั้งนี้ ในการจ่ายเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 จ่ายเป็นรายเดือน ๆ ละ 1 ครั้ง และจ่ายเงินสมทบล่วงหน้าได้ครั้งละไม่เกิน 12 เดือน แต่ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้
ทั้งนี้ผู้ประกันตนที่ประสงค์รับเงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มขึ้นสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติมได้ไม่เกินเดือนละ 1,000 บาทต่อเดือน ยกเว้น กรณีทางเลือกที่ 5 (2+3)  สามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติมได้ไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท
ทั้งนี้ผู้ประกันตนที่เลือก ความคุ้มครองทางเลือกที่ 3 สามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้ไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2555  แต่ต้องจ่ายในระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2556 ถึง วันที่ 8 ธันวาคม 2557
การแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูล

เมื่อเป็นผู้ประกันตนแล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เช่น เปลี่ยนคำนำหน้านาม ชื่อ - สกุล ที่อยู่ที่ติดต่อขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบ หรือแจ้งความไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตนต่อไป (ลาออก) เป็นต้น ให้แจ้งต่อสำนักงานประกันสังคม
กรณีขอเปลี่ยนทางเลือกจ่ายเงินสมทบจะทำได้ปีละ 1 ครั้ง โดยเมื่อยื่นขอเปลี่ยนแปลทางเลือกแล้วจะมีผลในเดือนถัดไป
ประโยชน์ทางภาษี

เงินสมทบในแต่ละปี ใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยใช้ใบเสร็จรับเงินที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเป็นหลักฐาน หรือขอหนังสือรับรองการชำระเงินสมทบจากสำนักงานประกันสังคม
สิทธิประโยชน์พื้นฐาน

กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย   เมื่อนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 200 บาทต่อวัน ไม่เกิน 30 วันต่อปี เงื่อนไขจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 4 เดือน (การรักษาพยาบาลใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง) จากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ)
กรณีทุพพลภาพ  รับเงินทดแทนการขาดรายได้จำนวน 500 - 1,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลานานถึง 15 ปี เงื่อนไข เงินทดแทนการขาดรายได้เมื่อทุพพลภาพขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือนขึ้นไป (ต้องเป็นผู้ทุพพลภาพหรือทุพพลภาพเพิ่มขึ้นตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการการ แพทย์)
กรณีตาย  จะ ได้รับค่าทำศพจำนวน 20,000 บาทต่อราย  เงื่อนไข จ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายในระยะเวลา 12 เดือน ก่อนเสียชีวิต  ยกเว้น เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เงื่อนไข จ่ายเงินสมทบครบ 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ก่อนเสียชีวิต
กรณีชราภาพ (เงินบำเหน็จ) ผู้ประกันตนสามารถรับเงินก้อนเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เงื่อนไข มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
กรณีชราภาพ (เงินบำนาญ)
-  ผู้ประกันตนสามารถรับเงินบำนาญเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน

-  ต้องจ่ายเงินสมทบถึงบำนาญขั้นต่ำหรือไม่น้อยกว่า 420 เดือน (35 ปี) ได้รับเงินบำนาญชราภาพขั้นต่ำเดือนละ 600 บาท ตลอดชีวิต

ทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณ เพื่อสิทธิประโยชน์ดังกล่าวสำนักงานประกันสังคมขอเสนอทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับคุณด้วย ชุดสิทธิประโยชน์ ดังนี้

ทางเลือกที่ 1  (จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 3 กรณี คือ  กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย  กรณีทุพพลภาพ  กรณีตาย
ทางเลือกที่  2  (จ่ายเงินสมทบ 150 บาท/เดือน)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 4 กรณี คือ  กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย  กรณีทุพพลภาพ  กรณีตาย  กรณีชราภาพ (เงินบำเหน็จ)
ทางเลือกที่ 3 มี 3 ทางเลือก ดังนี้

ทางเลือกที่ 3

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 1 กรณี คือ กรณีชราภาพ (เงินบำนาญ)
ทางเลือกที่ 1 และทางเลือก 3 (1+3)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้มครอง 4 กรณี คือ กรณีประสบอันตราย/จ็บป่วย  กรณีทุพพลภาพ  กรณีตาย  กรณีชราภาพ (เงินบำนาญ)
ทางเลือกที่ 2 และทางเลือก 3 (2+3)

สิทธิประโยชน์พื้นฐานคุ้ม ครอง 5 กรณี คือ กรณีประสบอันตราย/จ็บป่วย  กรณีทุพพลภาพ  กรณีตาย  กรณีชราภาพ (เงินบำเหน็จ)  กรณีชราภาพ (เงินบำนาญ)
วิธีการนำส่งเงินสมทบ

จ่ายเป็นเงินสด
สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา
หน่วยบริการเคลื่อนที่ของสำนักงานประกันสังคม
เคาน์เตอร์เซอร์วิส
เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำักัด (มหาชน)
ห้างเทสโก้โลตัส
ไปรษณีย์ (ธนาณัติ)
หักผ่านบัญชีธนาคาร

ธนาคารเพื่่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ธนาคารออมสิน
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
หมายเหตุ การ ชำระเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสจะเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 10 บาท ในส่วนการชำระผ่านการหักธนาคารออมสิน  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารกสิกรไทย  ธนาคารไทยพานิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จะมีค่าธรรมเนียม 5 บาทต่อครั้ง โดยจะได้รับใบเสร็จรับเงินทันที  แต่ผู้ประกันตนที่ชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสต้องนำใบเสร็จรับเงินที่ เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ออกให้พร้อม สมุดนำส่งเงินสมทบมาตรา 40 ไปติดต่อที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ทำการบันทึกข้อมูลในสมุดนำส่งเงินสมทบ  เนื่องจากต้องใช้ประกอบการยื่นเรื่องเมื่อมีการรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ

เอกสารประกอบการสมัคร

แบบการขึ้นทะเบียนการเป็นผู้ประกันตน มาตรา 40 (สปส.1-40)

บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้พร้อมสำเนา
สถานที่ในการขึ้นทะเบียน

สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา

หน่วยบริการเคลื่อนที่ของสำนักงานประกันสังคม



สิทธิประโยชน์และเงื่อนไข
1.  กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย
ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้วันละ 200 บาท  ไม่เกิน 30 วัน/ปี
การรักษาพยาบาลใช้สิทธิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือบัตรทอง 30 บาท
เงื่อนไขการรับสิทธิ
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน   ภายใน 4 เดือน ก่อนประสบอันตราย/เจ็บป่วย
รักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่  1 วันขึ้นไป  จะได้รับสิทธิวันละ 200 บาท  ไม่เกิน 30 วันต่อปี
2.  กรณีทุพพลภาพ
ได้รับเงินทดแทนการขาดได้ตั้งแต่ 500 - 1,000 บาท/เดือน  เป็นระยะเวลา 15 ปี
ตายก่อนครบ 15 ปี รับเงินค่าทำศพ 20,000 บาท
เงื่อนไขการรับสิทธิ
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือน ภายใน 10 เดือน  ก่อนเป็นผู้ทุพพภาพ จะได้รับสิทธิ 500 บาท/เดือน
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 12 เดือน ภายใน 20 เดือน ก่อนเป็นผู้ทุพพลภาพ จะได้รับสิทธิ 600 บาท/เดือน
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 24 เดือน ภายใน 40 เดือน ก่อนเป็นผู้ทุพพลภาพ  จะได้รับสิทธิ 800 บาท/เืดือน
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 36 เดือน ภายใน 60 เดือน ก่อนเป็นผู้ทุพพลภาพ  จะได้รับสิทธิ 1,000 บาท/เดือน
3.  กรณีตาย
ได้รับเงินค่าทำศพ 20,000 บาท
เงื่อนไขการรับสิทธิ
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 6 เดือน  ภายใน 12 เดือนก่อนเสียชีวิต
หมายเหตุ

"อุบัติเหตุ"  หมายความว่า  เหตุที่เกิดโดยไม่คาดดิดเป็นเหตุให้เสียชีวิต เช่น อุบัตเหตุจากการขนส่ง  การตกหรือล้ม  การจมน้ำ  การสัมผัสความร้อนและสิ่งของที่ร้อน  การสัมผัสสารพิษ  การถูกทำ้ร้าย  การดำเนินการตามกฎหมายและการปฏิบัติการสงคราม  การสัมผัสสัตว์และพืชมีพิษ  ภัยธรรมชาติจากฟ้าผ่า  แผ่นดินไหว เป็นต้น
** ยกเว้น  กรณีอุบัติเหตุ  ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 1 เดือน ภายใน 6 เดือน ก่อนเสียชีวิต

4.  กรณีชราภาพ  (รับเงินบำเหน็จ)
ได้เิงินบำเหน็จพร้อมผลตอบแทน (ดอกเบี้ย)  คืนทั้งหมด
เงื่อนไขการรับสิทธิ
เมื่อผู้ประกันตนมีอายุครบ  60 ปีบริบูรณ์  และแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน หรือลาออก
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มได้ไม่เกิน 1,000 บาท/เดือน
5.  กรณีชราภาพ  (รับเงินบำนาญ)
ได้รับบำนาญรายเดือนขึ้นต่ำ 600 บาท/เดือน ตลอดจนเสียชีวิต
กรณีจ่ายเงินสมทบไม่ถึงหลักเกณฑ์ที่จะรับเงินบำนาญ (ขั้นต่ำ) จะได้รับเงินบำเหน็จพร้อผลตอบแทน (ดอกเบี้ย)  คืนทั้งหมด
ได้รับบำนาญแล้วเสียชีวิตภายใน 60 เดือน ทายาทได้รับเงินบำเหน็จ 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน
กรณีทุพพลภาพก่อนได้รับบำนาญ จะมีสิทธิขอรับบำเหน็จพร้อมผลตอบแทน (ดอกเบี้ย)  คืน
เงื่อนไขการรับสิทธิ
ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบครบหลักเกณฑ์ที่จะรับเงินบำนาญ (ขั้นต่ำ) หรือจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 420 เดือน (35 ปี)
ผู้ประกันตนจะต้องมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน หรือลาออก
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มได้ไม่เกิน 1,000 บาท/เดือน
ผู้ประกันตนสามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้ไม่เกินเดือน พฤษภาคม 2555
เงินบำเหน็จชราภาพของผู้ประกันตน ผู้มีสิทธิรับเงินบำเหน็จได้แก่ บุคคลดังต่อไปนี้่
สามี   ภริยา  บิดาและมารดา  หรือบุตรของผู้ประกันตนในจำนวนที่เท่านกัน  กรณีไม่มีผู้สิทธิตามข้อ 2.1
ให้จ่ายแก่บุคคล  ซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับบำเหน็จชราภาพ
หมายเหตุ  หากมีการนำส่งเงินสมทบต่อเนื่องทุกเดือนจะได้รับเงินกรณีชราภาพขั้นต่ำ  (ยังไม่รวมผลตอบแทน) หรือดอกเบี้ย



ขั้นตอนการเบิกสิทธิประโยชน์ทดแทน
- ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนฯ (สปส. 2-01/ม.40) พร้อมหลักฐานประกอบการยื่นคำขอฯ ได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ

- ยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนภายใน 2 ปีนับแต่วันที่มีสิทธิ

 

- เมื่อผู้ประ กันตนได้รับแจ้งจากสำนักงานประกันสังคมให้รับเงินประโยชน์ทดแทน ผู้ประกันตนจะต้องรับเงินภายใน 2 ปีนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง หากไม่รับภายในกำหนด ให้เงินนั้นตกเป็นของกองทุน

 

การขอรับคืนเงินสมทบที่จ่ายล่วงหน้า
1. ผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิขอรับคืนเงินสมทบที่จ่ายล่วงหน้าได้ในกรณี ดังนี้
ผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย
ได้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
ผู้ประกันตนแจ้งความจำนงไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตน (ลาออก)
2. ขอรับเงินสมทบคืนได้ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ
3. เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นคำขอรรับเงินสมทบคืน มีดังนี้
กรณีผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ประกันตนและผู้มีสิทธิ
สำเนามรณบัตร
สำเนาทะเบียนสมรสของผู้ประกันตน และบิดา มารดา
สำเนาสูติบัตรของบุตรผู้ประกันตน
สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรอื่นที่หน่วยงานราชการออกให้
เอกสารอื่นๆ ตามความจำเป็น
กรณีได้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39 และกรณีผู้ประกันตนแจ้งความจำนงไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตน (ลาออก)
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่หน่วยงานราชการออกให้

หลักฐานประกอบการยื่นคำขอประโยชน์ทดแทน
กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนฯ (สปส. 2-01/ม.40)
ใบรับรองแพทย์
สำเนาเวชระเบียน (ถ้ามี)
สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรอื่นที่หน่วยงานราชการออกให้
กรณีทุพพลภาพ
ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนฯ (สปส. 2-01/ม.40)
ใบรับรองแพทย์
สำเนาเวชระเบียน (ถ้ามี)
สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรอื่นที่หน่วยงานราชการออกให้
กรณีตาย
ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนฯ (สปส. 2-01/ม.40)
สำเนามรณบัตร
หลักฐานแสดงว่าเป็นผู้จัดการศพ
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่หน่วยงานราชการออกให้ ผู้ประกันตนและผู้จัดการศพ
สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้ประกันตนและผู้จัดการศพ
กรณีชราภาพ เงินบำเหน็จ/เงินบำนาญ
4.1  กรณีผู้ประกันตนอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตน (ลาออก)
ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนฯ (สปส. 2-01/ม.40)
สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรอื่นที่หน่วยงานราชการออกให้
4.2  กรณีผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย
ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนฯ (สปส. 2-01/ม.40)
สำเนามรณบัตร
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีสิทธิรรับเงินบำเหน็จชราภาพ
สำเนาทะเบียนสมรสของผู้ประกันตน และบิดา มารดา (ถ้ามี)
สำเนาสูติบัตรของบุตร หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของบุตรกรณีไม่มีสูติบัตร

วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น บัดนี้ - มติ ก.กลาง เห็นชอบเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว อปท.

"กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น"

ลิงค์: http://iqepi.com/19613/ หรือ
เรื่อง: มติ ก.กลาง เห็นชอบเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว อปท.
**ไม่ต้องผ่านภาค ก. ก.พ.**
---


จากการประชุม ก กลาง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 ณ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น



กำหนดการให้ข้าราชการ/พนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้าง และพนักงานจ้าง อปท.ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวตามมติครม.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 18 พย.2557 ทุกประการ



- ให้ข้าราชการ ลูกจ้าง ที่กำหนดคุณสมบัติต่ำกว่า ป ตรี ที่มีเงินเดือนไม่ถึง 13,285 บาท (เดิม 12,285) ให้ได้รับค่าครองชีพเดือนละ 2,000 บาท(เดิม1,500) แต่เมื่อรวมกับเงินเดือนแล้วจะต้องไม่เกิน 13,285 บาท



- ให้บุคคลตามข้อ 1 ที่ได้รับเงินเดือนไม่ถึง10,000 บาท(เดิม 9,000 บาท) ให้ได้รับ 10,000 บาท



- ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นมา





ของแถม » หลักเกณฑ์การให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้าง และพนักงานจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว พ.ศ.๒๕๕๕



ส่งตามหนังสือสำนักงาน ก.จ.,ก.ท. และ ก.อบต. ด่วนที่สุด ที่ มท ๐๘๐๙.๓/ว.๑๒๕๙ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕



๑.ให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างตามภารกิจ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งได้รับเงินเดือน หรือค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนไม่ถึงเดือนละ ๑๒,๒๘๕ บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท แต่เมื่อรวมกับเงินเดือนหรือค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนแล้วต้องไม่เกินเดือนละ ๑๒,๒๘๕ บาท
กรณีจำนวนเงินที่ได้รับตามวรรคหนึ่งรวมกันแล้วไม่ถึงเดือนละ ๘,๖๑๐ บาท ให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นได้รับเงินเพิ่มค่า ครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเงินเดือนหรือค่าจ้างหรือค่าตอบแทนอีกจนถึง เดือนละ ๘,๖๑๐ บาท
สำหรับพนักงานจ้างทั่วไปขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท โดยให้ถือปฏิบัติตามนัยหนังสือสำนักงาน ก.จ.,ก.ท. และ ก.อบต.ด่วนที่สุด ที่ มท ๐๘๐๙.๓/ว ๑๑๕ ลงวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๑
ทั้งนี้ข้อ ๑. ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๔



๒.ในกรณีที่ตำแหน่งของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้างตามภารกิจ และพนักงานทั่วไปขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ ก.จ.,ก.ท. และ ก.อบต. ได้กำหนดให้คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งนั้นต้องใช้วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี ขึ้นไป ให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ พนักงานจ้างตามภารกิจ และพนักงานจ้างทั่วไปขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งบรรจุหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวที่มีเงินเดือน หรือค่าจ้างหรือค่าตอบแทนไม่ถึงเดือนละ ๑๕,๐๐๐ บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากเงินเดือน หรือค่าจ้างหรือค่าตอบแทนอีกจนถึงเดือนละ ๑๕,๐๐๐ บาท



๓.ในกรณีที่ตำแหน่งของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ ก.จ.,ก.ท. และ ก.อบต.ได้กำหนดให้คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งนั้น ต้องใช้วุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรี ให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งบรรจุและแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวมีเงินเดือนหรือเงินค่าจ้างหรือเงินค่าตอบแทนไม่ถึง เดือนละ ๑๒,๒๘๕ บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท แต่เมื่อรวมกับเงินเดือน หรือค่าจ้างหรือค่าตอบแทนแล้ว ต้องไม่เกินเดือนละ ๑๒,๒๘๕ บาท



๔.ในกรณีที่ตำแหน่งพนักงานจ้างทั่วไปขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ ก.จ.,ก.ท. และ ก.อบต.ได้กำหนดให้คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งนั้นใช้วุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่า ปริญญาตรี ให้พนักงานจ้างทั่วไปซึ่งบรรจุหรือแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวที่มีค่า ตอบแทนไม่ถึงเดือนละ ๙,๐๐๐ บาท ให้ได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวเพิ่มขึ้นจากค่าตอบแทนอีกจนถึงเดือนละ ๙,๐๐๐ บาท
ทั้งนี้ข้อ ๒ - ๔ ให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป



* ๕.กรณีข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น และลูกจ้างประจำ ซึ่งได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงของอันดับและค่ารับค่าตอบแทนพิเศษ (ร้อยละ ๒-๔-๖) ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชการ และลูกจ้างผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงหรือใกล้ถึงขั้นสูงของ อันดับหรือตำแหน่ง พ.ศ.๒๕๕๐ เงินค่าตอบแทนพิเศษ (ร้อยละ ๒-๔-๖-๘) ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนนอกเหนือจากเงิน เดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ.๒๕๔๗ และกรณีพนักงานจ้างตามภารกิจที่ได้รับค่าตอบแทนเพิ่ม (ร้อยละ ๓-๕) ตามการพิจารณาการเลื่อนขั้นประจำปี เมื่อรวมเงินค่าตอบแทนพิเศษดังกล่าวกับเงินเดือนหรือ ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทนแล้ว หากมีจำนวนเงินหรือค่าจ้างหรือค่าตอบแทนยังไม่ถึงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างตามภารกิจได้รับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวตามหลักเกณฑ์ใน ข้อ ๑ ข้อ ๒ หรือข้อ ๓ แล้วแต่กรณี



๖.การเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว ซึ่งมิได้กำหนดไว้ในระเบียบนี้ให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงิน เดือนข้าราชการหรือลูกจ้างประจำ แล้วแต่กรณีโดยอนุโลม



๗.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกคำสั่งให้ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้อง ถิ่น ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มค่า ครองชีพชั่วคราวตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยให้มีการตรวจสอบและปรับปรุงคำสั่งให้ถูกต้องและสอดคล้องกับอัตราเงิน เดือน ค่าจ้าง และค่าตอบแทนที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เช่น การเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี การปรับอัตราเงินเดือนตามวุฒิ การเลื่อนระดับหรือตำแหน่ง เป็นต้น แล้วจัดส่งสำเนาคำสั่งให้จังหวัดเพื่อตรวจสอบจำนวน ๑ ชุด โดยไม่ต้องส่งให้สำนักงาน ก.จ., ก.ท. และ ก.อบต.



หนังสือสั่งการ หนังสือสำนักงาน ก.จ.,ก.ท. และ ก.อบต. ด่วนที่สุด ที่ มท๐๘๐๙.๓/ว.๑๒๕๙ ลงวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕



ดาวน์โหลดหลักเกณฑ์เพิ่มเงินค่าครองชีพชั่วคราว